ประจวบคีรีขันธ์ - เกิดไฟไหม้บ่อขยะเก่าในพื้นที่ตำบลทับใต้ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 กินพื้นที่เป็นวงกว้างกว่า 20 ไร่ คาดเกิดจากมีอากาศร้อนทำให้แก๊สที่สะสมในกองขยะเกิดปะทุเป็นไฟ นายอำเภอหัวหินสั่งระดมเครื่องจักร รถดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ช่วยเร่งดับเพลิง ขณะนี้มีกลุ่มควันกระจายในรัศมี 3 กม. ชาวบ้านได้รับผลกระทบ
วันนี้ (7 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลเมืองหัวหิน และ อบต.ทับใต้ ระดมเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำดับเพลิงภายในบ่อขยะเก่า พื้นที่บ้านหนองพรานพุก ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยเพลิงกำลังลุกไหม้บ่อขยะโซนเอ และโซนบี กินพื้นที่เป็นวงกว้างกว่า 20 ไร่ และมีกลุ่มควันหนาแน่นฟุ้งกระจายไปทั่ว
ล่าสุด นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วย นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายเชาวรัตน์ เกิดทอง นายก อบต.ทับใต้ นายรวีโรจน์ แถมมี ส.อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 หัวหิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ ยังมีการปะทุอย่างต่อเนื่อง และเกิดกลุ่มควันฟุ้งกระจายไปตามทิศทางลม เริ่มมีประชาชนได้รับผลกระทบจากควันไฟในรัศมี 3 กิโลเมตร ทั้งพื้นที่เขตเทศบาลเมืองหัวหิน ตำบลทับใต้ และตำบลหินเหล็กไฟบางส่วน
สาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากบ่อขยะดังกล่าวถูกปล่อยทิ้งไว้นานกว่า 10 ปี มีแก๊สสะสมภายในเป็นจำนวนมาก เมื่อมาเจอกับอากาศที่ร้อนจัด ทำให้เกิดการปะทุเป็นเปลวไฟขึ้นจากด้านล่าง ซึ่งการดับไฟในบ่อขยะนี้จะต้องใช้การฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าไปให้ถึงชั้นดินจึงจะสามารถดับไฟ ไม่ให้เกิดการปะทุขึ้นมาอีก ซึ่งจะต้องใช้เครื่องจักร และรถแบ็กโฮในการเปิดทางเข้าไปกลางบ่อขยะ เพื่อให้รถดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ โชคดีที่ช่วงบ่ายวันนี้มีฝนตกลงมา ช่วยให้เพลิงที่กำลังลุกไหม้สงบลงได้บางส่วน แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังประเมินสถานการณ์ว่าจะมีการปะทุขึ้นมาอีก เนื่องจากยังมีความร้อนสะสมอยู่ข้างใน
ทั้งนี้ นายอำเภอหัวหินได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ บูรณาการร่วมกัน พร้อมนำเครื่องจักรกล รถบรรทุกน้ำของแต่ละ อปท. เข้าให้การช่วยเหลือกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
สำหรับสถานการณ์ด้านกลุ่มควันที่คลุ้งกระจายไปทั่ว สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพอากาศ เบื้องต้น กลุ่มควันดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับผู้ป่วยทางเดินหายใจ หากมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
พร้อมกันนี้ จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปที่ต้องออกนอกบ้าน หรือใช้ชีวิตกลางแจ้งให้สวมหน้ากากอนามัย ขณะเดียวกัน จะมีการประสานหน่วยงานในพื้นที่สำรวจประชากรกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง ติดบ้าน ติดเตี เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาเป็นลำดับแรก
