ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จบแล้ว ข่าวแม่ชีสาวเข้าออกกุฏิพระหนุ่มวัย 45 ปีที่อำเภอบ้านไผ่ติดต่อกันนานร่วมสัปดาห์
ที่แท้เพิ่นนับถือเป็นพี่น้องกัน ล่าสุดพระผู้ใหญ่มีมติไม่ต้องสึก ขอแค่ให้พระขนของออกจากวัดไปอยู่วัดอื่นแทน ด้านพระพี่ชายยันพระน้องเป็นคนดี ทั้งพระและชีต่างนับถือเป็นพี่น้องสายบุญที่ต้องเข้าๆ ออกๆ กุฏิพระเพราะชีมาสะเดาะเคราะห์ที่ขับรถชนแมวตาย
จากกรณีชาวบ้านธาตุ ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ร่วมกับผู้นำชุมชนและตำรวจเข้าตรวจค้นกุฏิภายในวัดสวาทบ้านธาตุ ภายหลังชาวบ้านพากันร้องเรียนว่ามีแม่ชีเข้าไปในกุฏิของพระรูปหนึ่งภายในวัดมานานกว่าหนึ่งสัปดาห์ และเมื่อช่วงกลางคืนวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมาผู้นำชุมชนพร้อมตัวแทนชาวบ้านได้เข้าตรวจสอบกุฏิหลังดังกล่าว พบแม่ชีกระโดดหนีออกจากกุฏิขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังยืนคุยกับพระลูกวัด ต่อมาเรื่องถึงนายอำเภอบ้านไผ่ ได้สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อรายงานต่อจังหวัดขอนแก่นและสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด
ล่าสุดก่อนเที่ยงวันนี้ (7 พ.ค.) ที่วัดสวาท บ้านธาตุ ม.5 ต.บ้านไผ่ พระพี่ชาย และลูกศิษย์ของ พระชคัดปาล อภินันโท อายุ 45 ปี พระลูกวัดที่เป็นข่าว กำลังขนย้ายข้าวของและอัฐบริขารส่วนตัวของพระชคัดปาลไปจำพรรษาที่วัดอื่น ภายหลังพระผู้ใหญ่ในตำบลมีมติให้ย้ายออกไปจากวัด แต่ยังไม่มีการลงโทษถึงขั้นให้ลาสิกขา โดยชคัดปาลถึงกับน้ำตาเล็ดและเล่าว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกคนบางคนบางกลุ่มกลั่นแกล้ง ไม่อยากให้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส อาตมาอยู่ที่วัดนี้มากว่า 10 ปี เคยจะได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส โดยรักษาการแต่ก็ถูกหาเรื่องจนถูกปลดเป็นเพียงพระลูกวัด กระทั่งมาเกิดเรื่องนี้ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา
ทั้งนี้ พระชคัดปาลได้พาสื่อมวลชนและตัวแทนชาวบ้านเข้าไปดูภายในกุฏิ และยืนยันว่าวันเกิดเหตุแม่ชีไม่ได้ขึ้นมาบนกุฏิและไม่ได้กระโดดออกจากกุฏิตามที่เป็นข่าว ไม่สามารถทำได้ มีตู้เก็บของขนาดใหญ่ตั้งบังอยู่ และหากจะเคลื่อนย้ายต้องใช้แรงมากถึงจะสามารถเปิดหน้าต่างที่มีมุ้งลวดกั้นอีกชั้นหนึ่ง และในจุดดังกล่าวไม่มีไฟส่องสว่างมองเห็น อาจจะพลาดเหยียบแล้วตกลงพื้นได้รับบาดเจ็บได้
พระชคัดปาลเล่าต่ออีกว่า ตนบวชมานานและจำพรรษาที่วัดแห่งนี้มา 11 ปีแล้ว กรณีที่มีชาวบ้านจับตัวหญิงแต่งชุดขาวว่าเป็นแม่ชีกระโดดออกจากกุฏินั้น หญิงรายดังกล่าวชื่อนางบี (นามสมมติ) เป็นแม่ชีจริง บวชที่วัดบ้านหนองรูแข้ ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ก่อนหน้านี้นางบีมีสามีและหย่าขาดกับสามีชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้มาบวชชีที่วัดบ้านหนองรูแข้ ด้วยศรัทธาที่มีต่อพระชคัดปาลจึงนับถือผูกเป็นพี่น้อง โดยแม่ชีบีนับถือพระเป็นพี่ชาย
โดยก่อนเกิดเรื่องนั้น แม่ชีได้มาหาพระชคัดปาลที่วัดแล้วบอกว่าขับรถเหยียบแมวตาย จึงมาหาพระเพื่อให้ช่วยล้างซวย ล้างบาปให้ โดยเริ่มทำพิธีในช่วงเย็นวันที่ 30 เมษายน 2567 ต่อด้วยเย็นวันที่ 1 พ.ค.และเย็นวันที่ 2 พ.ค. เป็นเย็นสุดท้ายที่จะทำพิธีล้างซวยให้ ด้วยการเอาน้ำล้างบาตร ราดที่ตัวรถของแม่ชี
เมื่อขับรถของตัวเองมาถึงวัด แม่ชีได้จอดรถไว้ที่หน้าศาลธรรมสังเวช จากนั้นก็ออกจากวัดไปกับญาติโยม กลับเข้าวัดมาประมาณ 2 ทุ่ม เมื่อญาติโยมส่งแม่ชีที่วัดแล้วก็ขับรถออกไป จากนั้นจึงทำพิธีล้างซวยที่รถให้ ส่วนแม่ชีก็นั่งในรถ เสร็จพิธีสามทุ่มกว่า จึงเดินเข้ากุฏิ ปิดไฟจะนอน จากนั้นก็มีเสียงผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจและชาวบ้านมาเรียกเพื่อขอตรวจค้นกุฏิ จึงออกจากกุฏิมาคุยกันที่ศาลาหน้ากุฏิ และไม่ให้ค้นกุฏิ เพราะไม่รู้ว่าค้นด้วยเหตุใด จึงไม่ให้ค้น
จากนั้นไม่นานก็มีชาวบ้านตะโกนบอกว่า จับตัวได้แล้ว และคุมตัวแม่ชีเดินมาที่ศาลาหน้ากุฏิ พร้อมกับบอกว่าคุมตัวแม่ชีไว้ได้หลังจากกระโดดลงมาจากหน้าต่าง อย่างไรก็ตาม เมื่อมติของพระและชาวบ้านเห็นตรงกันให้อาตมาออกไปจากวัด ก็พร้อมปฏิบัติตาม จึงเรียกญาติโยมมาขนของออกจากกุฏิที่ย้ายไปอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลคึมชาติ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น เพื่อความสงบสุขของญาติพี่น้องในหมู่บ้านและไม่ขอปฏิเสธใดๆ กับเรื่องดังกล่าว แม้ว่าไม่ได้ทำผิดอะไร ก็ไม่ขอโต้เถียง