สมุทรสงคราม - ชาวสวนทุเรียน 3 น้ำ บางคนที สมุทรสงคราม เผยจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำผลผลิตลดลงกว่าครึ่ง แต่รสชาติอร่อยเหมือนเดิม ราคาสูงถึงลูกละกว่า 1,000-5,000 บาท
จ.สมุทรสงคราม นอกจากจะมีผลไม้ที่ขึ้นชื่อ เช่น ส้มโอขาวใหญ่ และลิ้นจี่รสชาติดีแล้ว ปัจจุบัน ชาวสวนบางรายยังหันมาปลูกทุเรียนจะเรียกว่าเป็นอาชีพหลักก็ว่าได้ นอกจากจะให้ผลผลิตที่ดีแล้ว รสชาติยังอร่อย กลิ่นหอมแต่ไม่แรง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกินทุเรียนกลิ่นหอมอ่อนๆ เนื้อกรอบนอกนุ่มใน เป็นที่ถูกใจของผู้บริโภค
นายเอกชัย เทียนชัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.บ้านปราโมทย์ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า เดิมปลูกลิ้นจี่แต่บางปีไม่ให้ผลผลิต ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เช่น ปีนี้ลิ้นจี่ไม่ให้ผลผลิตเลย ตนจึงหันไปปลูกทุเรียนเมื่อเกือบ 20 ปีมาแล้ว เพราะเห็นว่าจังหวัดสมุทรสงครามอยู่ติดทะเลทำให้มีทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม เรียกว่า “น้ำลักจืดลักเค็ม” เป็นคุณสมบัติพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ปลูกไม้ผลชนิดใดก็ให้รสชาติที่ดี
หลังทดลองปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และพันธุ์ก้านยาว 10 กว่าต้น ปรากฏว่าให้ผลผลิตออกมาเนื้อนุ่ม รสชาติหอมหวานอร่อยมากและกลิ่นไม่แรง ตนจึงตั้งชื่อให้ว่า “ทุเรียน 3 น้ำ” เพราะสมุทรสงครามมี 3 น้ำ คือ น้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย ต่อมาจึงได้ปลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และพันธุ์ก้านยาวที่ให้ผลผลิตแล้วประมาณ 70 ต้น ต้นหนึ่งประมาณ 10-20 ลูก ปัจจุบันมีทุเรียนทั้งพันธุ์หมอนทอง และพันธุ์ก้านยาวประมาณ 800 ต้นแล้ว
ด้านการตลาดนั้น นายเอกชัย กล่าวว่า จัดว่าดีมาก แต่ละปีขายหมดไม่มีเหลือ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าขาประจำที่เคยซื้อไปกินแล้วติดใจมาสั่งซื้อซ้ำทุกปี มีทั้งที่มาสั่งจองด้วยตัวเอง และสั่งทางออนไลน์ตั้งแต่ทุเรียนลูกยังเล็กๆ ราคาพันธุ์หมอนทองอยู่ที่กิโลกรัมละ 250 บาท หรือลูกละ 1,000 บาทขึ้นไป ส่วนพันธุ์ก้านยาวกิโลกรัมละ 1,000 บาท หรือลูกละ 5,000 บาทขึ้นไป ส่วนลูกเล็กๆ จะแบ่งปันให้เพื่อนฝูงได้ชิมกัน แต่ละคนยกนิ้วให้ในเรื่องของความอร่อย
อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศปีนี้แปรปรวน ร้อนมาก แล้งจัด ส่งผลให้น้ำเค็มรุก ทำให้ทุเรียนให้ผลผลิตน้อย สวนของตนทุกปีเคยให้ผลผลิต 1,000-2,000 ลูก ปีนี้เหลือเพียง 700 กว่าลูก ลดลงมากกว่าครึ่ง ช่วงนี้เริ่มแก่ได้ที่ลูกค้าที่สั่งจองไว้เริ่มทยอยกันเข้ามาเอาไปแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจทุเรียน 3 น้ำ ไปรับประทานได้ที่สวน “ผู้ใหญ่เอก ทุเรียน 3 น้ำ”
