อุทัยธานี - อึ้งกันทั้งคนซื้อคนขาย อากาศร้อนภัยแล้งทำพืชผักในตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานีขึ้นราคา พริกขี้หนูสวนให้ผลผลิตน้อย จนราคาพุ่งสูงถึงกิโลฯ ละ 500 จากเดิมกิโลฯ ละ 250 บาท ขณะที่พืชผักอื่นๆ ก็แพงยกแผง มีแต่ถั่วฝักยาวที่ถูกลง พ่อค้าแม่ขายบ่นอุบลูกค้าหายจนเหงากันทั้งตลาด
วันนี้ (6 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจราคาผักตามแผงตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี ซึ่งพบว่าราคาพริกขี้หนูสวนปรับพุ่งสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 500 บาท จากเดิมขายกันในราคากิโลกรัมละ 250 บาท รวมไปถึงผักอื่นๆ อีกหลายรายการที่มีการปรับราคาขึ้นมาเกือบเท่าตัว จากผลกระทบของภัยแล้ง และสภาพอากาศที่ร้อนจัด
แม่ค้าแผงผักที่ตลาดแห่งนี้บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าช่วงนี้ราคาพริกขี้หนูสวนพุ่งสูงเนื่องจากภัยแล้งและอากาศร้อนจัด ทำให้ผลผลิตออกมาน้อยกว่าความต้องการของตลาด แม่ค้าต้องแย่งกันสั่งซื้อ บางครั้งสั่งมาเยอะก็ขายไม่ได้เพราะราคาสูง ผู้บริโภคหันไปซื้อพริกชนิดอื่นแทน เช่น พริกจินดาที่มีราคาถูกกว่า แต่กลิ่นหอมไม่เท่าพริกขี้หนูสวนเท่านั้น
นอกจากพริกขี้หนูสวนแล้ว มะเขือเจ้าพระยา และมะเขือพวงก็ราคาขึ้นเช่นกัน โดยมะเขือเจ้าพระยาจากเดิมกิโลกรัมละ 35 บาท เป็น 50 บาท มะเขือพวงจากเดิมกิโลกรัมละ 100 บาท เป็น 200 บาท มะระจากกิโลกรัมละ 50 บาท ก็ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท มีเพียงถั่วฝักยาว ที่ราคาลดลงมา จากกิโลกรัมละ 150 บาท เหลือกิโลกรัมละ 100 บาท
แม่ค้ายังได้กล่าวทิ้งท้ายอีกด้วยว่า ตอนนี้ที่ตลาดสดเงียบเหงามาก คนมาจับจ่ายซื้อของกันน้อยลงทุกอย่าง เพราะสินค้ามีราคาแพงขึ้นทั้งหมด ไม่ใช่แค่เฉพาะผักสดเท่านั้น ทำให้ผู้คนต่างบ่นไปตามๆ กัน ซึ่งก็ไม่เคยคิดว่าพริกขี้หนูสวนจะราคาแพงกว่าหมูสดเสียอีก อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าอย่างจริงจังและเร่งด่วนก่อนที่สถานการณ์จะแย่ไปกว่านี้