เชียงใหม่ - ผบช.ปส.เผยชัด..เครือข่ายยานรกเบื้องหลังใช้โจ๋วัย 14 ปีร่วมอำพรางขนยาบ้า 5,600,000 เม็ด ออกจากชายแดนอรุโณทัย เชียงดาว เชียงใหม่ เคยโดนจับบิ๊กล็อตมาแล้วหลายรอบ ทั้งช่วงสิ้นปี 66-ต้นปี 67 และหลังสงกรานต์ เมษาฯ 67 รวมของกลางกว่า 20 ล้านเม็ด
พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พ.ต.อ.กฤษดา ศรีอีสาณ รอง ผบก.ปส.3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบของกลางยาบ้า 5,600,000 เม็ด ซึ่งตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดสกัดจับผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติด ท้องที่ สภ.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เมื่อเช้ามืดวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพบผู้ต้องหาเป็นเยาวชน อายุ 14 ร่วมขบวนการด้วย
การจับกุมดังกล่าวมีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 14.6 ล้านเม็ดเมื่อ 20 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล ทำให้ทราบว่ามีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน จึงได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์บุคคลเป้าหมายโดยตลอด
ต่อมาทราบว่าเป้าหมายเครือข่ายดังกล่าว จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนหมู่บ้านอรุโณทัย ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เข้าสู่พื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด หมายเลขทะเบียน จฉ 4935 เชียงใหม่ ในการลำเลียงยาเสพติด และมีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ (ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน) ทำหน้าที่เป็นรถนำทางในการลำเลียงยาเสพติดในช่วงกลางคืนของวันที่ 4 พ.ค. 2567
ชุดสืบสวนจึงได้ทำการวางกำลังตามเส้นทาง กระทั่งพบ และสกัดรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ด ทะเบียน จฉ 4935 เชียงใหม่ เพื่อขอตรวจค้น ซึ่งผู้ที่ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว ได้พยายามหลบหนี ต่อมาสามารถสกัดรถยนต์คันดังกล่าวไว้ได้ แต่คนขับซึ่งเป็นชายไม่ทราบชื่อ ได้อาศัยความมืดหลบหนีเข้าป่าไปได้ และยังพบเด็กชายแดง (นามสมมติ) นั่งโดยสารมาด้วย จึงควบคุมตัวไว้ เมื่อตรวจค้นภายในรถยนต์พบยาบ้า จำนวน 28 กระสอบ จำนวนประมาณ 5,600,0000 เม็ด อยู่ภายในห้องโดยสาร
ส่วนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทำหน้าที่เป็นรถนำในการลำเลียงยาเสพติด ผู้ขับขี่และคนซ้อนท้ายอาศัยความชำนาญทางขับขี่หลบหนี จึงได้ควบคุมเด็กชายแดงพร้อมของกลางเพื่อสอบสวนขยายผลดำเนินคดี
พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ผบช.ปส. กล่าวว่า พฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่จับกุมในครั้งนี้มีความเกี่ยวพันกันกับเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการขยายผล แต่จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ได้มีการจับกุมสมาชิกเครือข่ายดังกล่าวมาก่อนแล้ว ซึ่งขณะนั้นจับกุมได้ของกลางกว่า 14 ล้านเม็ด อีกทั้งช่วงสิ้นปี 2566 ก็ได้ของกลางยาบ้ากว่า 6 ล้านเม็ด และต้นปี 2567 ที่ผ่านมาก็ได้ของกลางประมาณ 5 ล้านเม็ด
ซึ่งครั้งนี้เครือข่ายยาเสพติดจงใจใช้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นเยาวชน หรือผู้หญิงมาเป็นตัวกลางในการลักลอบขนยาเสพติดเนื่องจากกลุ่มเยาวชนปลุกปั่นง่าย และมีค่าแรงในการจ้างค่อนข้างถูก ส่วนในกรณีที่มีผู้ต้องหากระทำความผิดเป็นเยาวชนนั้นในขั้นตอนการสอบสวนสืบสวนก็จำเป็นต้องใช้ทางสหวิชาชีพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนเข้ามาช่วยเหลือดูแลส่วนนี้ร่วมกัน ย้ำว่าจะขยายผลตามจับผู้ที่รอดจากการจับกุมครั้งนี้ต่อไป
“หลังจากถูกจับกุมได้แต่ละครั้ง เครือข่ายดังกล่าวก็มีการเปลี่ยนวนสมาชิกไปเรื่อยๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ต้องศึกษาเป้าหมายเพิ่มเติมเพื่ออัปเดตข้อมูล ตัวละครของแต่ละเครือข่าย อย่างเคสนี้ที่มีผู้ต้องหาบางส่วนที่หลบหนีไปได้ก็ต้องมีการตามจับตัวให้ได้”
