สมุทรสงคราม - หัวหน้าเวรดับเพลิงเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ยิงกลางหัวพนักงานดับเพลิง สันนิษฐานเป็นเด็กใหม่ไม่ฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา
วันนี้ (4 พ.ค.) ร.ต.ท.ปิติพันธ์ วงค์อารีย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุยิงกันภายในสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม นายแพทย์ประณิธิ พิพัฒน์ประทานพร แพทย์เวร รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.สมุทรสงคราม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม
ในที่เกิดเหตุเป็นห้องวิทยุสถานีดับเพลิง ตั้งอยู่หน้าเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม บนโซฟาพบศพนายนันทพร ต่ายสกุล อายุ 25 ปี พนักงานดับเพลิงสวมเสื้อยืดสีแดง คลุมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ถูกยิงด้วยปืนขนาด 11 มม. กลางศีรษะ กระสุนฝังใน เลือดไหลนองพื้น นอนเสียชีวิต สภาพในมือขวายังถือโทรศัพท์เล่นไลน์อยู่ บริเวณประตูบานเลื่อนกระจกพบปลอกกระสุนตกอยู่ 1 ปลอก
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมาคือ นายเจริญ ขำทวี หรือครูเดี่ยว อายุ 48 ปี หัวหน้าเวรประจำวัน ยืนรอมอบตัวพร้อมปืนขนาด 11 มม. 1 กระบอก แม็กกาซีน 1 แม็ก พร้อมลูกกระสุนขนาด 11 มม. 4 นัด และซองพกปืนแบบผ้าสีดำ 1 ซอง
จ.อ.ชัยวัฒน์ อ้อมนอก หัวหน้าสถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากลูกน้องว่า ก่อนเกิดเหตุในห้องวิทยุ มี เจ้าหน้าที่ 3 นาย คือ นายทินกร พันธ์ทอง ซึ่งเป็นพนักงานวิทยุนั่งทำหน้าที่หัวหน้าออกถนน นายนันทพร ผู้ตายนอนเล่นโทรศัพท์ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 1 นายนอนหลับ รวม 3 นาย มีผู้ก่อเหตุเดินเข้ามายิง 1 นัด และบอกว่า มึงไม่ให้เกียรติกู และเดินออกมาด้านนอกโทรศัพท์แจ้งผู้บังคับบัญชา (นายกเทศมนตรีเมืองสมุทรสงคราม) ก่อนจะเดินออกมามอบตัว
จ.อ.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ครูเดี่ยว ผู้ก่อเหตุเป็นคนตั้งใจ จริงจังกับการทำงานมาก จนบ้างครั้งลูกน้องทำไม่ถูกต้อง มีปากเสียง ไม่เคารพผู้บังคับบัญชา จนสร้างความไม่พอใจกับครูเดี่ยว ส่วนผู้เสียชีวิตเข้ามาทำงานเพียง 5 เดือน ยังไม่ได้รับการฝึกดับเพลิงขั้นต้น ซึ่งกำลังจะส่งไปฝึกดังกล่าวเพื่อให้มีระเบียบวินัย ขณะที่ครูเดี่ยวจริงจัง และทำงานแบบเข้มข้น จึงมาฝึกกันเอง อาจจะทำให้ผู้ตายซึ่งยังเด็กยังไม่มีวินัย ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เถียงผู้บังคับบัญชาก็เป็นได้
นายทินกร พันธ์ทอง พนักงานวิทยุ กล่าวว่าตนกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่ จู่ๆ ได้เสียงเสียงปืน คิดว่ายางระเบิด พอหันไปเห็นว่าผู้ตายถูกยิงแล้ว จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด (เวลาในกล้องช้ากว่าเวลาจริงประมาณ 30 นาที) พบว่าผู้ก่อเหตุเดินออกจากห้องมาหยิบปืนในรถกระบะที่จอดอยู่ใต้อาคาร ก่อนจะเดินออกมาเข้าไปในห้องไม่นานเดินออกมาโทรศัพท์หานายกเทศมนตรี และเดินกลับไปหน้าห้องที่เกิดเหตุรอมอบตัว
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายเจริญ ขำทวี หรือครูเดี่ยว ผู้ก่อเหตุ ทำงานมาเกือบ 20 ปี เป็นคนจริงจังกับการทำงาน ขณะที่นายนันทพร ผู้ตายเพิ่งเข้ามาทำงานประมาณ 6 เดือน ซึ่งอาจทำให้ไม่เข้าใจการทำงาน จนเหตุเป็นการกระทบกระทั่งจนเกิดเป็นความขัดแย้งกันจนบานปลาย
ขณะที่ นายนันทพร ผู้ตายเคยโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ ขุนแผนอัมพวา เคยโพสต์รูปถือปืน และผู้ตายเคยเป็นนักมวยเก่า จึงอาจเป็นเหตุจูงใจให้ครูเดี่ยว ผู้ก่อเหตุที่มีปัญหากันเรื่องงาน คิดว่ามีการถือปืนขู่ และหากสู้กันคงสู้ไม่ได้ ทำให้ครูเดี่ยว ผู้ก่อเหตุทนไม่ไหวตัดสินใจยิงนายนันทพร ผู้ตายเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะส่งศพนายนันทพร ผู้ตายไปชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ และจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป