ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- สุดสลดหดหู่ใจ! ตั้งศพคู่สองผัวเมียวัยรุ่นสร้างตัว ชาวโคราช ขี่จยย.ฝ่าไฟแดงชนเก๋งดับ ลูกน้อย 2 คนวัยวัย 8 ขวบ และ 4 ขวบ กลายเป็นกำพร้า ย่าและอา รับภาระช่วยเลี้ยงดู
วันนี้ ( 4 พ.ค.67) จากเหตุการณ์ นายวีรพงศ์ หยาดผักแว่น อายุ 28 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน นางสาวศิริพร หยาดผักแว่น อายุ 29 ปี แฟนสาว แล้วฝ่าสัญญาณไฟแดง เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (3 พ.ค.67 ) บริเวณสี่แยกปักธงชัย หรือ แยกอวยชัย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พุ่งชนกับรถยนต์เก๋งเข้าอย่างจัง ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้ง 2 ราย
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 26 หมู่ที่ 14 ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของผู้เสียชีวิต บรรดาครอบครัวญาติพี่น้อง ได้นำร่างมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านพร้อมกัน 2 ศพ สร้างความหดหู่ใจให้กับบรรดาญาติสนิทมิตรสหายและเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก ซึ่งตลอดทั้งวันนี้ มีบรรดาญาติพี่น้อง หัวหน้า และเพื่อนร่วมงานเดินทางเคารพศพแสดงความเสียใจกับครอบครัวอย่างต่อเนื่อง และทุกคนต่างสลดหดหู่ใจเมื่อต้องมาเห็นภาพโลงศพของสองผัวเมียตั้งเคียงกัน และยังมีป้ายไวนิลไว้อาลัยเป็นรูปคู่ของทั้งสองคนที่อยู่ในโทนสีขาวดำ แทนที่จะเป็นภาพที่มีสีสันเหมือนงานมงคล อื่นๆ
นางละไม หยาดผักแว่น อายุ 48 ปี แม่ของ นายวีรพงศ์ ผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกชายและลูกสะใภ้ แต่งงานอยู่กินกันมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ประมาณ 10 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นบุตรสาว วัย 8 ขวบ ส่วนคนเล็ก เป็นผู้ชาย วัย 4 ขวบ คู่นี้รักกันมาก แม้จะมีปากเสียงกันบ้าง แต่ก็ตามประสาสามีภรรยาวัยรุ่นทั่วไป แต่ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงหรือถึงขั้นลงไม้ลงมือ ทั้งสองเป็นคนอัธยาศัยดี เป็นที่รักของญาติพี่น้องและคนรอบข้าง ขยันขันแข็ง ทำมาหากินตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาว ได้เข้าไปเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่งย่านชานเมืองนครราชสีมา ประมาณ 1 ปีเศษ ซึ่งหลังจากได้งานนี้ ทั้งสองก็ต้องเดินทางจากตำบลครบุรีใต้ ไปที่ทำงานทุกวัน วันละเกือบ 50 กิโลเมตร โดยตนจะคอยเลี้ยงดูแลหลานทั้งสองที่บ้านให้ พอถึงวันหยุดทั้งสองก็จะอยู่กับลูกๆ พาไปเล่นไปเที่ยวตามประสาพ่อแม่ลูก เป็นครอบครัวที่อบอุ่นอย่างมาก
จนเช้าวันเกิดเหตุ ทั้งสองขับรถออกจากบ้านไปทำงานปกติ โดยไม่มีลางบอกเหตุใดๆ กระทั่งไปประสบเหตุจนเสียชีวิต เมื่อตนทราบข่าว ถึงกับเข่าทรุดทำอะไรไม่ถูก ยอมรับว่ามาถึงตอนนี้ ก็ยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น รู้สึกเสียใจมากไม่ว่าจะเป็นลูกชายของตัวเองหรือลูกสะใภ้ จึงบอกกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงว่า อยากให้จัดงานศพทั้งคู่ที่เดียวกัน ไม่อยากให้ทั้งคู่แยกจากกันไปไหน เพราะสองคนนี้รักกันมาก
นางละไม บอกอีกว่า แม้ว่าทั้งสองจะจากไปแล้ว แต่ยังมีหลานอีก 2 คนที่เหลือไว้ให้ดูต่างหน้า ซึ่งตนและครอบครัวจะเลี้ยงดูแลหลานทั้งสองเป็นอย่างดีเหมือนกับที่เคยเลี้ยงลูกตัวเองมา แม้ว่าจะต้องลำบากเพียงใดก็ตาม
ส่วนเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ยังไม่มีกะจิตกะใจไปสืบสาวราวเรื่อง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้หลังจากเกิดเหตุ คู่กรณีซึ่งเป็นหญิงพร้อมสามีชาวต่างชาติที่เป็นคนขับรถ ก็ได้เดินทางมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยแล้ว และบอกว่า จะขอมาเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพให้หนึ่งคืน และมอบเงินช่วยค่าจัดงานมาส่วนหนึ่งด้วย
สำหรับงานฌาปนกิจศพของสองสามีภรรยาคู่นี้ ทางครอบครัวยืนยันว่า จะเผาทั้งคู่ในวันเดียวกัน คือวันที่จันทร์ที่ 6 พ.ค. 2567 นี้ โดยช่วงเช้าจะทำการฌาปนกิจนายวีรพงศ์ ก่อน จากนั้นจะฌาปนกิจ นางสาวศิริพร ผู้เป็นภรรยา ที่วัดซับก้านเหลือง ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
