เชียงใหม่ - อึ้งกันทั้งทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจโหล่งขอด-ชุด บช.ปส. สกัดจับขบวนการค้ายา ควบรถ SUV คันใหญ่ขนยาบ้าไม่ต่ำกว่า 5,600,000 เม็ด แหกด่านฯเข้าเชียงใหม่ตอนเช้ามืด ก่อนคนขับทิ้งรถหนี แต่พบเด็กชายวัย 14 ร่วมขนด้วย
ภาพวงจรปิดที่จุดตรวจด่านพิทักษ์ธรรม ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โหล่งขอด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สกัดจับรถยนต์ ยี่ห้อฟอร์ด เอฟเวอร์เรท สีขาว ทะเบียนเชียงใหม่ เช้ามืดวันนี้(4 พ.ค.) พบยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบรวม 28 ใบ ตรวจสอบเป็นยาบ้าประมาณ 5,600,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมคัวเด็กชาย อายุ 14 ปี (ไม่พบบัตร) และส่วนคนขับรถหลบหนีไป 1 คน
ด้าน พ.ต.อ.ศุภชัย จันทรา ผกก.สภ.โหล่งขอด จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.กฤษดา ศรีอิสาณ หัวหน้าชุดตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ว่าจะมีรถขนยาเสพติดผ่านในพื้นที่จึงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โหล่งขอดและเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตั้งจุดตรวจพิทักษ์ธรรม ถนนสายเชียงใหม่-พร้าว สกัดรถคันดังกล่าว
ต่อมาพบมีรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อทะเบียน มีวัยรุ่น 2 ขับขี่ซ้อนท้ายกันมาผ่านด่านตรวจไป ลักษณะมองซ้ายมองขวาสังเกตการตรวจของเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นสักพักพบมีรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เอฟเวอร์ เรส สีขาว ทะเบียนเชียงใหม่ ขับมาจากทางอำเภอพร้าว มุ่งหน้าตัวเมืองเชียงใหม่ และกำลังจะขับเข้าด่านตรวจฯ
เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจค้นรถยนต์อยู่ จึงส่งสัญญาณให้รถยนต์คันดังกล่าวชะลอเพื่อหยุดและตรวจค้น แต่รถยนต์คันดังกล่าวพยายามเร่งเครื่องหลบหนี แต่ติดรถยนต์ที่จอดสกัดอยู่บริเวณด่าน รถยนต์คันดังกล่าว จึงเลี้ยวซ้ายพยายามหลบหนีไปทางบ้านหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชุด บช.ปส.จะขับรถไล่ติดตามไป
เมื่อรถเป้าหมายเลี้ยวซ้าย ไปประมาณ 150 เมตร รถยนต์คันดังกล่าวเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง จากนั้นคนขับรถได้เปิดประตู อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าไปในสวนลำไย เจ้าหน้าที่ตารวจจึงเข้าตรวจสอบพบเด็กชาย อายุ 14 ปี อยู่ภายในรถ และพบยาบ้าจานวน 28 กระสอบ เบื้องต้นคาดว่ามียาบ้าประมาณ 5,600,000 เม็ด
สอบถามเด็กชายคนดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งว่า ได้รับว่าจ้างเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท นั่งมากับรถ โดยมี นายเตี้ย ไม่ทราบชื่อนามสกุล ซึ่งเป็นคนหมู่บ้านใกล้เคียงกันเป็นผู้ขับขี่ และเป็นคนวิ่งหลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด บช.ปส.จะนำผู้ต้องหานำไปขยายผลที่ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 (ส่วนหน้า) เชียงใหม่ ต่อไป