ระยอง - ผู้ว่าฯ ระยอง นำหน่วยงานเกี่ยวข้องบุกตรวจโรงงานวินโพรเสสใจกลางชุมชนมาบตาพุด อ.เมืองระยอง พบเจ้าของเดียวกันกับโรงงานไฟไหม้ใน อ.บ้านค่าย ซ้ำซุกสารเคมีเต็มโกดังเช่นเดียวกัน เบื้องต้น สั่งขนย้ายออกทันที หวั่นไฟไหม้ซ้ำรอยเดิม ด้าน ตร.เตรียมออกหมายเรียกเจ้าของโรงงานรับทราบข้อกล่าวหา จัดสายตรวจดูแลป้องกันลอบวางเพลิง
จากกรณีที่เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (3 พ.ค.) ชาวบ้านหนองพะวา อ.บ้านค่าย จ.ระยอง กว่า 200 คนได้รวมตัวเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการขนย้ายสารเคมีจากโรงงานสารเคมี บริษัท วินโพรเสส ที่ถูกไฟไหม้ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาออกนอกพื้นที่ให้เร็วที่สุด เนื่องจากหวั่นว่าหากถึงช่วงลมเปลี่ยนทิศจะทำให้เกิดผลกระทบต่อชาวบ้านมากกว่าที่เป็นอยู่ และอาจส่งผลกระทบต่อนักเรียนที่กำลังจะเปิดเทอม
พร้อมประกาศว่าหากสุดท้ายหน่วยงานในพื้นที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ พร้อมที่จะยกระดับการเรียกร้องด้วยการเดินทางบุกทำเนียบรัฐบาล เพื่อพบนายกรัฐมนตรีนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายเรืองฤทธิ์ ประกอบธรรม ปลัดจังหวัดระยอง พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง นายวิเชียร ทองด้วง อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บุกเข้าตรวจสอบโรงงานเก็บกากสารเคมี บริษัท วินโพรเสส อีกแห่งที่ตั้งอยู่ในชุมชนซอยวัดโขดหิน ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง
โดยพบว่าโรงงานแห่งนี้อยู่ห่างจากวัดโขดหินเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น และยังตั้งอยู่ใจกลางชุมชน ที่สำคัญเป็นโรงงานดั้งเดิมของบริษัท วินโพรเสส ที่มีเจ้าของเดียวกันกับโรงงานวินโพรเสส ที่ถูกไฟไหม้ในพื้นที่ ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ และตัวโรงงานได้ปิดกิจการไปแล้ว
แต่ภายในโรงงานยังมีโกดังอีก 2 แห่ง ซึ่งโกดังแรกได้ใช้เป็นที่เก็บเศษวัสดุพลาสติก และกระดาษที่อยู่ในถุงบิ๊กแบ็กสีขาวจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังพบถังขนาด 200 ลิตรถูกวางเรียงซ้อนกัน เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย ส่วนอีกโกดังมีการเก็บสารเคมีไว้ในถัง 200 ลิตรนับร้อยถัง และถูกเก็บในถังสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่อยู่ในลูกกรงเหล็กคล้ายกับโรงงานที่ถูกไฟไหม้
และยังมีป้ายเขียนกำกับชื่อสารเคมีไว้ด้วย เช่น สารเมทานอล น้ำมันเตา และกากตะกอนน้ำมัน และยังงมีชุดแท่นเครื่องกรองบรรจุน้ำมันภายในโกดังอีก 1 ชุด
เบื้องต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดตรวจสอบว่าทั้งจังหวัดระยองมีโรงงานประเภทเดียวกันกับ บริษัท วินโพรเสส ที่เกิดเพลิงไหม้อีกหรือไม่ และเพื่อความปลอดภัยยังได้มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัด เข้าแจ้งความการครอบครองวัตถุอันตรายกับเจ้าของโรงงานแห่งนี้ก่อน
และจะให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบสารเคมีที่อยู่ในถัง 200 ลิตรภายในโรงงานแห่งนี้ว่าเป็นไปตามที่ป้ายชื่อสารที่กำกับหรือไม่
นอกจากนั้น เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ซ้ำรอยโรงงานบริษัท วินโพรเสส ใน อ.บ้านค่าย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ยังได้สั่งการให้มีการขนย้ายสารเคมีออกจากโรงงานแห่งนี้ในทันทีเนื่องจากเป็นโรงงานที่อยู่ใจกลางชุมชน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ยังได้รับการแจ้งเบาะแสอีกว่าใต้ผืนดินของโรงงานแห่งนี้อาจมีการฝังสารอะไรบางอย่างไว้ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด และยังได้จัดชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เวียนเข้ามาตรวจสอบ เพื่อป้องกันเหตุลอบวางเพลิงอีกด้วย
ด้าน พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง เผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้โรงงาน บริษัท วินโพรเสส ในพื้นที่ ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย ว่าขณะนี้ได้สอบพยานไปแล้ว 20 ปาก และกำลังอยู่ระหว่างการออกหมายเรียกเจ้าของโรงงานมารับทราบข้อกล่าวหาเบื้องต้นในฐานความผิดฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ไฟไหม้ทรัพย์สินเสียหาย และเป็นอันตรายแก่ชีวิตบุคคลอื่น