เชียงราย - ผู้ต้องหาหนุ่มชาวจีนเข้าไทยผ่านสามเหลี่ยมทองคำโดนจับฐานใช้ตราประทับปลอมในพาสปอร์ต ส่งทนายร้อง ป.ป.ช. อ้างโดนจับเหมือนขังลืมมาตั้งแต่ 2 เมษาฯ แถมถูกเรียกรับผลประโยชน์ซ้ำ
ผู้ต้องหาชายชาวจีน อายุ 44 ปี ได้ให้ทนายความเป็นตัวแทนเข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.เชียงราย เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมขณะข้ามแม่น้ำโขงมาจาก สปป.ลาว ขึ้นฝั่งไทยที่จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย หลังพบใช้ตราประทับปลอมในหนังสือเดินทาง จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสนดำเนินคดีในข้อหา "ปลอมและใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราที่ทำปลอมขึ้น" ปัจจุบันจึงถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางเชียงราย
ผู้ต้องหาชาวจีนดังกล่าวแจ้งผ่านทนายความว่าหลังจากเขาถูกจับกุมมาเกือบ 30 วัน เจ้าหน้าที่ไม่ได้เรียกสอบปากคำเพิ่มเติม เห็นว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม นอกจากนี้ตั้งข้อสังเกตว่าเอกสารเดินทางมาจากทางการจีน จึงเชื่อว่าผู้เสียหายคือรัฐบาลจีน เมื่อเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรจึงควรดำเนินคดีผ่านอัยการ รวมทั้งอ้างว่าระหว่างถูกคุมขังได้มีบุคคลไม่ทราบว่าอยู่หน่วยงานไหนเข้าไปเจรจาเรียกรับผลประโยชน์ด้วย
ทนายความคนดังกล่าวระบุอีกว่า เคยแจ้งต่อหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ที่ อ.เชียงแสน แล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง จึงได้เข้าร้อง ป.ป.ช. ส่วนเหตุการณ์นั้นยังไม่ได้ชี้ชัดว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพียงแต่สงสัยว่ามีพฤติกรรมอาจเข้าข่ายเรียกทรัพย์หรือไม่ จึงขอให้ทาง ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ต้องหาชาวจีนคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน จับกุมเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2567 หลังจากนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงมาจากเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ถือหนังสือเดินทาง สป.จีน ขึ้นฝั่งที่จุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจด้วยระบบสารสนเทศกลับพบว่าไม่มีข้อมูลการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรตามที่ระบุในเอกสาร ขณะที่ตราประทับในเอกสาร เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เบิกมาใช้แต่อย่างใด จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าเดินทางมาจากประเทศจีนเพื่อมาทำงานใน สปป.ลาว แต่ต้องการมาประเทศไทยจึงว่าจ้างเพื่อนเป็นเงิน 16,000 หยวน ให้ปลอมตราประทับขาออกประเทศไทย จากนั้นจึงเดินทางเข้าประเทศไทยและถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีดังกล่าว
