พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ อยุธยา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีของกลาง อ.ภาชี อย่างใกล้ชิด พร้อมระดมความคิดจากหลายหน่วยงานร่วมวางแผนแก้ไขปัญหาโกดังเก็บสารเคมีลักลอบผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พบว่ายังมีกลุ่มควันลอยอยู่ ต้องเร่งระดมฉีดน้ำจุดที่พบความร้อนสูงอย่างต่อเนื่อง
จากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี ตั้งอยู่ริมถนนสายอุทัย-ภาชี หมู่ 2 อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโกดังเก็บสารเคมีของกลาง ตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ (2 พ.ค.) เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ในระดับหนึ่งแต่ยังมีผลกระทบในเรื่องของกลิ่นที่ฟุ้งกระจายซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่โดยรอบ
ล่าสุด บ่ายวันนี้ (2 พ.ค.) นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาโกดังเก็บสารเคมีลักลอบผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กรมโรงงานอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยว เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อหารือแนวทางในการกำจัดสารเคมีทั้ง 4,000 ตัน ที่อยู่ภายในโกดัง ซึ่งสารเคมีดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของ บก.ปทส. กรมโรงงานอุตสาหกรรม และเจ้าของโกดัง
นายนิวัฒน์ เปิดเผยหลังมีการประชุมว่าแผนการดำเนินงานเคลื่อนย้ายสารเคมีจากการที่ได้ประชุมหาทางออกร่วมกัน มีแนวทางคือเตรียมกำจัดสารเคมีของกลางที่อยู่ในโกดัง ที่ 1-3 ก่อน โดยจะนำออกไปเข้าสู่กระบวนการบำบัด ส่วนในโกดังที่ 4 และ 5 ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ หลังจากเพลิงสงบจะเข้าไปตรวจและจำแนกประเภทของสารเคมี เพื่อวางแนวทางพร้อมหาผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินการกำจัดต่อไป ซึ่งจะเริ่มกระบวนการตั้งแต่เดือนมิถุนายน และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน ถึงตุลาคมนี้ ทั้งนี้ ทางจังหวัดมีข้อกังวลในการเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้เกิดไฟไหม้ซ้ำขึ้นมาอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุด ช่วงค่ำวันนี้พบว่ายังมีกลุ่มควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งอาจจะมีบางจุดที่มีความร้อนสูงและยังดับไม่สนิท
ขณะเดียวกัน ที่วัดโคกม่วง ตำบลโคกม่วง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราวของทางโรงพยาบาลภาชี หลังจากเมื่อคืนได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนักที่พักฟื้นอยู่โรงพยาบาลกระจายส่งต่อตามโรงพยาบาลใกล้เคียงและช่วงเช้าได้มาเปิดโรงพยาบาลสนาม
โดยมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสูตรดมควันพิษ ที่มีอาการระคายเคือง คัดจมูกหายใจไม่ออก และแสบคอเข้ามารับการตรวจ และจะคัดแยกผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการสูดดมสารพิษ โดยมีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลภาชี และเจ้าหน้าที่ รพ.สต เข้าซักประวัติผู้ป่วย อีกทั้งยังมีผู้ป่วยโรคทั่วไปเข้ามาทำการรักษา ตรวจอาการในโรงพยาบาลสนามชั่วคราวแห่งนี้ โดยจะมีหมอประจำและพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
