เชียงใหม่ - ตำรวจสันกำแพงและมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์พบแล้วซากสุนัขที่ถูกหนุ่มใหญ่ฆ่ารัดคอสุดโหดเหี้ยม หลังยอมรับสารภาพเอาไปให้เพื่อนในหมู่บ้านใกล้กันช่วยชำแหละแล้วแบ่งเนื้อกันกิน บุกตรวจเจอยังเหลือแช่ตู้เย็นเก็บเอาไว้กินต่อ ขณะที่ชิ้นส่วนฝังในสวนหลังบ้าน พร้อมควบคุมตัวเพื่อนและมีดของกลางที่ใช้ไปดำเนินคดีด้วยอีกราย
ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 67 ตัวแทนจากมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์นำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีนายทรงวุฒิ เชื้อทอง อายุ 42 ปี ในความผิดฐานลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะและทารุณกรรมสัตว์ หลังได้รับการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่าเมื่อวันที่ 29 เม.ย.67 เวลาประมาณ 16.20 น.ในพื้นที่หมู่บ้านป่าแงะ ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง นายทรงวุฒิได้ก่อเหตุทำร้าย “เจ้าม่อน” สุนัขพันธุ์ไทย เพศผู้ อายุ 10 เดือน จนตายอย่างโหดเหี้ยม ด้วยการใช้เชือกรัดคอลากไปกับพื้นและแขวนกับต้นมะยมจนขาดใจตาย ต่อหน้าหลานชายอายุ 7 ขวบ จากนั้นนำซากยัดใส่กระสอบปุ๋ยขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่ออกไปทิ้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากที่ช่วงบ่ายวานนี้ (1 พ.ค. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานและนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมควบคุมตัวนายทรงวุฒิ ซึ่งเบื้องต้นให้การยอมรับว่าลงมือก่อเหตุจริง แต่ยังไม่ยอมบอกว่านำซากสุนัขไปทิ้งที่ใด ไปสอบปากคำอย่างละเอียดและดำเนินคดีที่สถานีตำรวจ โดยในเวลาต่อมานายทรงวุฒิให้การยอมรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุเนื่องจากโมโหที่สุนัขกัดปากหลานชายอายุ 7 ขวบที่เป็นเด็กพิเศษ ซึ่งหลังก่อเหตุแล้วได้นำซากสุนัขไปให้เพื่อนที่ชื่อ นายโรจน์ อยู่หมู่ 1 บ้านป่าเหียง ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง ทำการชำแหละเพื่อแบ่งเนื้อกันกิน จนกระทั่งถูกจับกุม
ทั้งนี้ จากคำรับสารภาพดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมตัวแทนจากมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์จึงได้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านของนายโรจน์ ซึ่งพบอาวุธมีดยาวประมาณ 1 เมตร ที่ใช้ชำแหละซากสุนัข และเนื้อสุนัขที่ยังเหลือแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อเก็บไว้กินต่อ รวมทั้งพบชิ้นส่วนต่างๆ ของสุนัขถูกฝังอยู่ในสวนหลังบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมควบคุมตัวนายโรจน์ไปดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาทิ้งซากสัตว์
