พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจทางหลวงอยุธยาสกัดจับ 2 ผัวเมียใช้รถเก๋งขนแรงงานต่างด้าว พบแรงงานไม่ได้กินข้าวมา 2-3 วัน เพื่อจะหลบหนีเข้าประเทศไทย
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. พ.ต.อ.สถิตย์ วิชัยกุล ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.30 น. วันนี้ (29 เม.ย.) ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ได้ออกตรวจเส้นทาง โดยพบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 2 ขว 1250 กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมาโดยใช้ความเร็วสูง มีน้ำหนักรถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกะพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด
จนกระทั่งมาถึง กม.17-18 ทล.347 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ พบมี นายปรีชา สารพล อายุ 33 ปี บ้านเลขที่อยู่ 19 หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งสว่าง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้ขับ โดยมี น.ส.วิไลวรรณ ภูมิสถาน อายุ 29 ปี นั่งโดยสารด้านซ้ายมือ และพบแรงงานต่างด้าว ชาย 2 หญิง 3 คน นั่งโดยสารมากับรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา พบว่าทั้งหมดสัญชาติพม่า ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด
จากการสอบถาม นายปรีชา คนขับให้การยอมรับว่า วันนี้เวลาประมาณ 08.00 น.ได้รับการประสานจากชายไทยชื่อ ขวัญ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 5 คน ในพื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทางที่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี โดยระหว่างทางจะมีพี่ชายของนายขวัญ ชื่อกอล์ฟ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) เป็นผู้ขับรถยนต์นำทางให้ตน โดยเป็นการโทร.ผ่านไลน์ จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยทำแบบนี้มาแล้ว 3-5 ครั้ง โดยได้หัวละ 1,900 บาท
ส่วนแรงงานต่างด้าวพอพูดไทยฟังไทยได้ เล็กน้อย ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพาเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย คนละ 16,000 บาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ยังได้จัดหาซื้อข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่มมาให้แรงงานได้รับประทาน ท่ามกลางความดีใจที่ได้กินข้าวมื้อแรก หลังจากสอบถามทราบว่าบางคนไม่ได้กินข้าวมาแล้ว 2-3 วัน หลังจากต้องหลบหนีผ่านเข้าช่องทางธรรมชาติจนมาถูกจับกุม
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา สองสามีภรรยา ร่วมกันรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ส่วนแรงงานทั้งหมดในข้อหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป