อุบลราชธานี-จังหวัดอุบลราชธานี จัดมหกรรมประกวดควายใหญ่-ควายสวยงามชิงแชมป์โลกครั้งที่ 1 คนแห่ชมคึกคัก โดยเฉพาะควายเผือก “เจ้าโก้ เมืองเพชร” คนแห่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เพราะเป็นควายตัวท็อป ค่าตัวสูงมากกว่า 18 ล้านบาท เผยอนาคตต้องการให้มีการพัฒนาวงการควายให้เป็นที่นิยมแพร่หลายมากกว่าที่เป็นอยู่ ควายไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่จะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศได้ไม่น้อยในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(27เม.ย.)ที่ลานอเนกประสงค์ข้างห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลอุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานประกวดควายงาม ควายยักษ์ ชิงแชมป์โลกครั้งที่ 1 โดยมีควายจากทั่วประเทศกว่า 100 ฟาร์ม เข้าร่วมประกวดแข่งขันควายประเภทต่างๆ อาทิ ควายงาม ควายใหญ่ ควายแคระ ควายเผือก และควายดำ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนที่เข้าร่วมชมการแข่งขันครั้งนี้เป็นอย่างมาก
สำหรับจุดประสงค์ของการจัดมหกรรมประกวดความงามและควายยักษ์ ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดและภาคเอกชนจัดขึ้นในครั้งนี้ ก็เพื่อยกระดับการอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย รวมทั้งสร้างแรงจูงใจในการเลี้ยงควายแก่เกษตรกร และประชาชนทั่วไป มีการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเลี้ยง การเพาะพันธุ์ การปรับปรุงพันธุ์ให้มีคุณภาพในทุกด้าน เพื่อผลักดันการส่งออกด้านปศุสัตว์ควายของไทยไปทั่วโลก
ส่วนควายที่ได้รับความสนใจจากงานประกวดครั้งนี้ และเป็นดาราที่มีประชาชนให้ความสนใจเข้าถ่ายภาพด้วยมากที่สุด คือ “เจ้าโก้ เมืองเพชร” ควายเผือกยักษ์จากวนาสุวรรณฟาร์ม เพราะเป็นควายเผือกที่มีความสวยงาม มีขนาดใหญ่ยักษ์ มีความสมบูรณ์ของร่างกายในทุกส่วน ตั้งแต่ส่วนหัวไปจนถึงด้านหลัง ทำให้มีมูลค่าทางการตลาดสูงถึง 18 ล้านบาท และเคยเข้าทำเนียบไปอวดโฉมให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้ชมมาแล้ว
"พ่อเลี้ยงเจ" แห่งวนาสุวรรณฟาร์ม เจ้าของเจ้าโก้ เมืองเพชร กล่าวถึงการเลี้ยงควายไทยว่า อนาคตมีแนวโน้มดีมาก ควายประกวดถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่งของไทย คนรู้จักควายไทยทั้งคนไทยและต่างชาติ สื่อต่างชาติสนใจเดินทางมาทำข่าวจำนวนไม่น้อย ตอนนี้กำลังทำโครงการจัดโรดโชว์ให้คนเลี้ยงควายให้ชาวต่างชาติมาดูมาศึกษา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนประสานงานกับทางสำนักนายกรัฐมนตรี อาจกำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 1-2 มิถุนายนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ส่วนเรื่องของควายเนื้อ เริ่มมองเห็นอนาคตบ้างแล้ว โดยเริ่มจากซอฟต์พาวเวอร์ จากโก้ เมืองเพชร ที่ได้ร้องเรียนปัญหาราคาควายตกต่ำ ทำให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประชุมหารือ เปิดโอกาสให้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ของควายเนื้อหรือควายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้ส่งออกไปต่างประเทศ จึงมีการทบทวนแก้ไขเรื่องของกฎระเบียบ มีการกระชุมร่วมกับประเทศจีน เวียดนาม ลาว ถ้าแก้ไขตรงนี้ได้ตลาดควายไทยน่าจะไปได้ดี มูลค่าจะสูงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“สำหรับคนนอกวงการควาย ตอนนี้เริ่มเห็นความสำคัญของควายที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่จะมองข้ามไม่ได้แล้ว จากจุดเริ่มต้นจากปรากฏการณ์ของพี่โก้ หรือควายสวยงามหลายๆตัว เริ่มหันมาเลี้ยงควาย วงการควายกำลังไปในทิศทางที่ดี” พ่อเลี้ยวเจแห่งวนาสุวรรณฟาร์มกล่าว
ในกรณีของกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่หรือกลุ่มคนหนุ่มสาว ที่สนใจหันมาเลี้ยงควายเพื่อเพิ่มมูลค่านั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องดี เพราะควายไทยเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลก เป็นสัตว์ใกล้ตัวของน้องๆ ถ้าน้องมีพื้นที่อยู่แล้วเลี้ยงควายเถอะ เพราะอนาคตดีแน่นอน เนื่องจากเห็นตัวอย่างเยาวชนหลายคนที่มาเลี้ยงควายสามารถทำรายได้จากควาย โดยให้เริ่มจากแม่ควายที่มีอยู่แล้วใส่พ่อพันธุ์ที่ดีเข้าไป ก็จะเป็นควายสายพัฒนาสายพันธุ์ อย่างเช่นตนซื้อควายประกวดตัวแรกราคา 7 แสนบาทเศษ ซึ่งเจ้าของเดิมซื้อมาแค่ 3 แสนบาทเศษ แต่มาขายให้ตนได้ 7 แสน จึงเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด
นายสมชาย จุลลาลัย ชาวอุบลราชธานี ที่เข้ามาชมงานกล่าวว่า ตนมีความชอบควายเป็นทุนเดิม อยากให้มีการยกระดับการเลี้ยงควายให้สูงขึ้น หากมีเงินก็จะซื้อมาเลี้ยงเพิ่มขึ้นอีก จากเดิมที่เลี้ยงอยู่แล้ว 2 ตัว เป็นควายแบบบ้านๆ แต่อยากพัฒนาเป็นควายใหญ่ควายยักษ์เหมือนที่เอามาประกวดกันครั้งนี้
ด้านนายจิระวัฒน์ ธิมาทา นักศึกษาสัตว์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี มีความรู้สึกประทับใจควายใหญ่ เพราะอดีตไม่มี แต่ตอนนี้เริ่มมีการพัฒนาจากเกษตรกรที่เลี้ยงควายแบบบ้านๆ พัฒนาขึ้นเป็นควายใหญ่ควายยักษ์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรที่เลี้ยงควาย คิดเป็นมูลค่ามากเหมือนกัน อนาคตมีเงินจะซื้อควายพื้นบ้านมาเลี้ยง แล้วค่อยปรับโครงสร้างพันธุกรรมเอา น่าจะดีกว่าซื้อแบบราคาแพง เพราะตัวเราเองไม่มีเงินเยอะแล้วค่อยพัฒนาขึ้นเป็นควายใหญ่
สำหรับการมาดูงานวันนี้ สนใจสายพันธุ์อุทัยธานี เช่น เจ้าคิงคองที่มีจุดเด่นที่ส่วนสูง อยากให้มีการอนุรักษ์ควายไทย อนาคตเชื่อว่าจะมีการพัฒนาควายให้สูงไปถึง 2 เมตร และควายพื้นบ้านก็จะสูงขึ้นด้วย