ระยอง - นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์เพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีที่ จ.ระยอง ตำหนิอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ล่าช้าจนมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก สั่งทุกหน่วยเร่งช่วยดับไฟให้เบ็ดเสร็จเพื่อนำสารเคมีไปกำจัดให้ถูกต้อง จี้ตำรวจตามตัวผู้กระทำผิดดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะได้เสร็จสิ้นภารกิจเยี่ยมชมสวนทุเรียนใน จ.จันทบุรี พร้อมรับฟังรายงานสรุปการผลิตทุเรียนคุณภาพปลอดภัยมูลค่าสูง และได้มอบนโยบายการผลิตทุเรียนคุณภาพที่มีเป้าหมายการส่งออกให้ได้ 130,000 ล้านบาทในปี 2567 โดยกำชับให้หน่วยงานราชการและกระทรวงต่างๆ สนับสนุนเรื่องการส่งออกผลไม้ไทย และเร่งแก้ไขปัญหาภัยแล้งนั้น
เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.พิมพ์ภัรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังเดินทางไป อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อติดตามความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม บริษัท วินโพรสส ม.4 บ้านหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยมี นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ รายงานสรุปภาพรวมสถานการณ์ให้รับทราบ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเผยว่ารัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้โรงงานและจุดที่เป็นเขตอันตรายตรงนี้ จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลควบคุมเหตุไฟปะทุ และเพลิงไหม้จนกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
พร้อมให้จัดทำแผนเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว และให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบไปลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านค่าย ศูนย์ดำรงธรรม ต.หนองบัว และ ต.บางบุตร เพื่อขอรับการเยียวยาฟื้นฟู ตามพระราชบัญญัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนั้น ยังกำชับให้กรมควบคุมมลพิษ และกรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนดจุดตรวจวัดคุณภาพอากาศตามชุมชนเพื่อรายงานผลให้ทราบ โดยกำชับให้เร่งจัดการกากสารเคมีอันตรายด้วยการนำไปกำจัดให้ถูกต้องโดยเร็ว
นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาในช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีวัตถุอันตรายรั่วออกนอกพื้นที่ และให้กรมโรงงานกำหนดมาตรการที่ชัดเจน รวมทั้งให้อุตสาหกรรมจังหวัดบูรณาการตรวจสอบโรงงานประเภทนี้ทั่วประเทศ เพื่อจัดทำแนวทางและมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
และยังเน้นย้ำให้กรมการปกครอง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรี ได้ตำหนิการทำงานของ นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ลงพื้นที่เกิดเหตุล่าช้าจนทำให้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ยังได้รับหนังสือร้องเรียนจากเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง และประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ก่อนจะขึ้นรถตู้เดินทางออกจากที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนอีกกลุ่มที่ยืนรออยู่บริเวณทางออกโรงงาน พากันถือป้ายประท้วงโรงงาน และขอให้นายกรัฐมนตรี จัดการเรื่องการนำสารเคมีออกจากพื้นที่โดยเร็ว ซึ่งรถของนายกรัฐมนตรี ไม่จอดเพื่อหยุดดูเหตุการณ์แต่อย่างใด
และระหว่างนั้นยังพบว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหญิงซึ่งปฏิบัติงานรอรับคณะนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดได้เกิดอาการเป็นลม จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านค่าย เพื่อทำการรักษา