ศูนย์ข่าวขอนแก่น-หนุ่มใหญ่ทำทีออกหาดักหนูนาที่แท้ลอบนำยาบ้าไปวางซุกไว้ตามพงหญ้าข้างทางถนนมะลิวัลย์รอเครือข่ายค้ายานรกมารับไปขายต่อ แต่ไม่พ้นสายตาตำรวจถูกจับพร้อมนำตัวไปค้นบ้านเจอยาบ้าอีกร่วม 340,000 เม็ด สารภาพได้ค่าจ้างกระจายยาบ้าครั้งละ2แสนบาท อย่างไรก็ตามพยายามติดสินบนตำรวจเป็นเงิน 5 แสนบาท
มีรายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเช่าเลขที่ 160 บ้านหัวนา หมู่ที่ 3 ต.จระเข้ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ของนายจินดา หรือเขียว เถาว์ชาลี อายุ 41ปี ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ จากการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 320,000 เม็ดพร้อมอุปกรณ์การเสพยาบ้า ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน จึงทำการตรวจยึดของกลาง และควบคุมตัวนายจินดา พร้อมนางสาวรุ่งทิพย์ หรือหวาน สกุลโพน อายุ 36 ปี ภรรยา มาสอบสวน ที่ สภ.บ้านฝาง เพื่อขยายผลและดำเนินคดี
พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านฝาง ได้ออกตระเวนสืบหาข่าวในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อมาถึงด้านหลังวัดป่าวิเวกธรรม ต.หนองบัว อ.บ้านฝาง พบเห็นรถยนต์กระบะสีดำ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน บร 526 กาฬสินธุ์ จอดอยู่บริเวณข้างทางในลักษณะต้องสงสัย จึงหยุดรถลงไปตรวจสอบ
พบนายจินดา ทำทีเหมือนคนมาออกหาล่าหนูนาพร้อมกับอุปกรณ์หาหนูนา แสดงอาการตกใจท่าทางมีพิรุธ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด ที่นายจินดานำไปวางที่ป่าในซอย พร้อมกับวางอุปกรณ์ดักหนูเป็นสัญลักษณ์ จึงทำการตรวจยึด
นายจินดา รับสารภาพว่า มียาบ้าอีกจำนวนหนึ่งเก็บไว้ที่บ้านเช่า โดยมีนางสาวรุ่งทิพย์ ภรรยา เป็นผู้ดูแลอยู่ จึงนำกำลังตรวจค้นได้ของกลางยาบ้าอีกจำนวน 320,000 เม็ด โดยในระหว่างหาของกลางนายจินดา พยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่เป็นเงินหลักแสนบาท เจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผนทำทีเป็นตกลงจนนายจินดา กดเงินสดออกจากบัญชีมาจนหมดบัญชีเป็นจำนวน 500,000 บาท
จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางยาบ้า 340,000 เม็ด เงินสดจำนวน 500,000 บาท รถยนต์ 1 คัน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านฝาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ กล่าวว่า พฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้จะรับยาบ้าจากนายเดี่ยว พ่อค้ายาชาวลาว ครั้งละ 400,000 เม็ด จากนั้นจะนำไปวางตามจุดต่างๆทั่วทั้งจังหวัดขอนแก่น เมื่อวางเสร็จก็จะนำอุปกรณ์ดักหนูไปวางไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้พ่อค้ายาบ้ารายย่อยมารับไปจำหน่ายต่อในพื้นที่ โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 200,000 บาท ซึ่งทำมาแล้ว 3 ครั้งก่อนจะถูกจับกุม และต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่ไม่ใจอ่อนยอมรับเงินสินบนที่ผู้ต้องหาพยายามเสนอให้เป็นเงิน 5 แสนบาท