ลำพูน/เชียงใหม่ – วงจรปิดจับภาพ 2 ใน 4 คนร้ายร่วมทีมอุ้มฆ่าเพื่อนแรงงานต่างด้าวขนศพจากลำพูนทิ้งป่าละเมาะริมทางแม่ริม-สะเมิง รอยต่ออุทยานฯดอยสุเทพ-ปุย โผล่หมู่บ้านพื้นที่สารภี เชียงใหม่ ตำรวจไล่ตามไม่ทัน-ผญบ.ต้องระดมคนขับ จยย.ตระเวนค้นหาจนดึก
ความคืบหน้า กรณีกลางดึกวันที่ 21 เม.ย.67 กลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 คน ขับรถยนต์กระบะบุกห้องพักภายในหอพักแห่งหนึ่ง ที่บ้านไชยสถาน ต.อุโมงค์ อ.เมืองลำพูน ทำร้ายร่างกายโดยใช้ค้อนทุบหัวนายจ๋อมวัน อายุ 30 ปี แรงงานต่างด้าวชาวไทใหญ่ สัญชาติเมียนมา จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา แล้วพากันอุ้มขึ้นรถยนต์กระบะอำพรางศพด้วยการมัดมือมัดเท้านำศพไปทิ้ง ริมถนนสายแม่ริม-สะเมิง เขตรอยต่ออุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จนศพเริ่มขึ้นอืดแล้วมีชาวบ้านผ่านไปพบศพ
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่ากลุ่มชายที่ก่อเหตุนั้นพักอาศัยอยู่บริเวณสวนลำไยในเขต ต.ชมพู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ จึงตามไปจับกุมได้ 2 รายคือนายอุ่น ลุงอ่อง อายุ 45ปี เป็นทหารไทยใหญ่ ยศสิบโท คนขับกระบะคันดังกล่าวและเป็นคู่กรณีกับนายจ๋อมวันผู้ตาย คนร้ายรายที่ 2 คือนายวู้นีเลี้ยง เป็นทหารว้าแดง หนึ่งในลูกน้องของนายอุ่น ขณะเข้าจับกุมชายที่ร่วมก่อเหตุอีก 2 คนได้วิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้
กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 26 เม.ย. ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำตัวผู้ต้องหาที่จับได้ทั้ง 2 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หอพักในพื้นที่จังหวัดลำพูนและจุดทิ้งศพพื้นที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุด ก็ไล่ล่าคนร้ายที่เหลืออีก 2 คนอย่างไม่ลดละ
ต่อมาชาวบ้านได้พบเห็นชายวัยรุ่น 2 คน สภาพใส่กางเกงขาสั้นไม่สวมเสื้อ มีรูปร่างลักษณะเหมือนกับคนร้ายที่ก่อเหตุตามที่ผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนประกาศและนำรูปถ่ายมาดู จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนจึงนำกำลังไปเพื่อจะจับกุม แต่ชายทั้ง 2 คนได้วิ่งหลบหนีไปในสวนลำไยอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำสุนัขดมกลิ่นติดตามแต่ไม่พบตัว ขณะที่ผู้เกี่ยวข้องได้มีการนำกำลังคุ้มครองศูนย์เด็กเล็กในหมู่บ้านเพราะหวั่นคนร้ายจะมาจับเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองหวังหลบหนี
และช่วงค่ำ(26 เม.ย.)ผู้ใหญ่บ้านในเขตหมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 ต.ชมพู อ.สารภี และพื้นที่ใกล้เคียงได้ประกาศเสียตามสาย ให้ชาวบ้านในพื้นที่ระมัดระวังอันตรายจากคนร้าย ขอให้ปิดประตูหน้าต่างรั้วบ้านให้ดี รวมถึงเก็บกุญแจรถทุกชนิดให้มิดชิด เพื่อป้องกันคนร้ายแอบมาขโมยไปใช้ในการหลบหนี
นอกจากนี้ตั้งแต่ค่ำ-กลางดึกที่ผ่านมา นายยุทธนา กันทะตุ่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.ชมพู อ.สารภี พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน กลุ่มอาสาสมัครชุมชนและชายฉกรรจ์กว่า 10 คน ได้ระดมกำลังกันขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตระเวนไปโดยรอบหมู่บ้าน รวมถึงจุดที่พบตัวคนร้าย เพื่อค้นหาคนร้ายและป้องกันเหตุหวั่นคนร้ายเข้ามาในหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าคนร้านทั้ง 2 คนน่าจะหนีไปไม่ไกลอาจจะย้อนกลับเข้าหมู่บ้านเพื่อมาขโมยอาหารและเสื้อผ้าของชาวบ้าน แต่ก็ไม่พบตัว จึงได้ยุติการค้นหาในเวลาต่อมา
