ระยอง -ชาวบ้านสุดดีใจได้ข่าว "นายกฯเศรษฐา" ลงพื้นที่โรงงานสารเคมีไฟไหม้ที่ระยองพรุ่งนี้ วอนช่วยเร่งดับไฟ-ขนสารเคมีออกไปให้เร็วก่อนส่งผลกระทบต่อร่างกายมากกว่าที่เป็นอยู่ ขณะสถานการณ์ล่าสุดไฟปะทุอีกที่โดกัง 3 จนทีมดับเพลิงต้องร้องขอเครื่องวิเคราะห์โลหะ
วันนี้ ( 26 เม.ย.)ผู้สื่อข่าวายงานว่า นายทศพล บวรโมทย์ นายอำเภอบ้านค่าย และนายจตุรงค์ วงค์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางบุตร ได้ประชุมร่วมทีมดับเพลิงโรงงานสารเคมี บริษัท วินโพรเสส ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา และเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ได้ใช้สาร F-500 เข้าดับไฟบริเวณโกดังที่ 3 ซึ่งมีการเก็บอะลูมิเนียมดรอส(กากเหลือจากการหลอมอะลูมิเนียม) ที่เกิดการปะทุขึ้นอีก แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ไฟมอดสนิทได้
นอกจากนั้นบริเวณที่มีการนำดินและทรายกลบเพื่อป้องกันการปะทุได้เกิดยุบตัวจนเป็นโพรง และยังพบเปลวไฟปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ที่ประชุมได้เตรียมที่จะร้องขอไปยังเจ้าหน้าที่สำนักควบคุมมลพิษและสิ่งแวดล้อมที่ 13 จ.ชลบุรี เพื่อให้นำเครื่อง XRF หรือเครื่องวิเคราะห์โลหะ เข้าตรวจสอบกองสารเคมีในโกดังที่ 3 ว่ามีสารชนิดใดบ้าง
รวมทั้งยังจะให้เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ทำการเก็บตัวอย่างกากตะกรันอะลูมิเนียมในโกดังแห่งนี้ไปตรวจสอบ เพื่อให้การดับเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผล รวมทั้งจะมีการนำปูนขาวหรือหิน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าดินและทราย เข้ากลบพื้นที่ในโกดังที่ 3 อีกด้วย
ด้าน นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน จ.ระยอง ถือว่ารุนแรงมากเพราะมีการเก็บสารเคมีชนิดต่างๆ เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญโรงงานแห่งนี้ยังอยู่ระหว่างต้องคำพิพากษาของศาลจังหวัดระยอง ปี 2564 ที่ให้ บริษัท วิน โพรเสส ทำการกำจัดสารเคมีทั้งหมด และกว่าจะได้ดำเนินการอย่างจริงจังก็ต้องเริ่มต้นในปี 2565
" เพราะบริษัทแห่งนี้อ้างว่าหาผู้รับเหมาที่เหมาะสมไม่ได้ อีกทั้งการนำสารเคมีออกไปกำจัดเกิดความล่าช้าจนเกิดเหตุเพลิงไหม้และเป็นเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นที่ จ.อยุธยา ซึ่งเป็นการวางเพลิงโดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานที่ชัดเจน ขณะที่โรงงานแห่งนี้ กรมโรงงานฯ ได้เน้นย้ำให้จัด รปภ.เข้าเวรยามตลอดเวลาและติดกล้องวงจรปิด ซึ่งหลังจากนี้จะได้ตรวจสอบว่าช่วงเวลาเกิดเหตุมีใครเข้า-ออกโรงงานบ้าง "
นอกจากนั้น กรมโรงงาน ยังจะขอให้อัยการจังหวัดระยอง ยื่นขอแถลงต่อศาลฯ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการสารเคมีภายในบริษัท วิน โพรเสส เพื่อให้ กรมโรงงาน สามารถเข้าดำเนินการจัดการเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ และสารเคมีในโรงงานได้อย่างเร่งด่วน
และยังจะสามารถบริการจัดการงบประมาณที่จำเลย ได้นำเงินไปวางไว้ที่ศาล ซึ่ง กรมโรงงาน.จะเป็นผู้จัดการเองป้องกันความล่าช้าในการจัดการกับสารเคมีในโรงงานฯ ทั้งที่ไหม้ไปแล้วและยังไม่ไหม้
ขณะที่ นายอนันต์ ประกอบสุข อายุ 52 ปี ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าดีใจที่มีข่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โรงงานไฟไหม้ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ และยังวอนขอให้นายกรัฐมนตรี เร่งช่วยชาวบ้านเพราะขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่าง และเป็นมานานถึง 10 ปีแล้ว
" ถ้านายกฯ ลงมาแล้วยังไม่ได้รับการแก้ไข พวกเราก็คงไม่มีที่พึ่งแล้วและอยากให้ปัญหาที่เกิดขึ้นจบโดยเร็ว และอยากให้นำสารเคมีที่เกิดไฟไหม้ออกจากพื้นที่เพราะยิ่งเอาไว้นานชาวบ้านก็จะยิ่งได้รับผลกระทบหนักขึ้นไปอีก." ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าว
