เชียงใหม่-ไฟไหม้ป่าลามหนัก "ดอยนาง" อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ย่างเข้าวันที่ 4 แล้ว จนท.ระดมกำลังเร่งดับให้ได้เร็วที่สุด ขณะที่อธิบดีกรมอุทยานฯ เตรียมสั่งปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว อย่างไม่มีกำหนด เหตุพบการลักลอบเผาไม่หยุด หวั่นสร้างความเสียหายให้ "ดอยหลวงเชียงดาว" ที่ยูเนสโกประกาศให้พื้นที่สงวนชีวมณฑลลำดับที่5ของประเทศไทย
วันนี้(26 เม.ย.67) รายงานข่าวแจ้งว่าสถานการณ์ไฟป่าบนดอยนาง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงเกิดไฟไหม้ลุกลามอย่างหนักโดยเมื่อคืนที่ผ่านมา สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอเชียงดาว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังดับไฟตลอดทั้งคืน ซึ่งเบื้องต้นพบว่าไฟดังกล่าวเกิดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว พื้นที่ตำบลเชียงดาวและตำบลเมืองงาย บริเวณด้านหน้าดอยนาง ที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน โดยลุกลามมานานถึง 4 วันแล้ว
ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ระดมกำลังทั้งภาคพื้นดิน และเฮลิคอปเตอร์ของหลายหน่วยงานบินโปรยน้ำดับไฟบนหน้าผาสูงในจุดที่หน่วยภาคพื้นดินไม่สามารถเข้าถึงต่อเนื่องทุกวัน แต่ช่วงเย็นวานนี้ มีกระแสลมแรงทำให้ไฟลุกลามขยายวงกว้างออกไปมองเห็นเป็นแนวยาว ทิศทางไฟบางจุดลามจากบนเขาลงสู่ด้านล่าง ท่ามกลางความมืด เจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย เร่งเดินเท้าลงพื้นที่สกัดไฟจากหัวไฟที่อยู่บนดอยสูงไล่ลงมาทางตีนดอย เพื่อไม่ให้ลุกลามขึ้นยอดดอยสร้างความเสียหายแก่ผืนป่ามากขึ้น ล่าสุดเช้าวันนี้สามารถคุมสถานการณ์ได้แล้ว เบื้องต้นพบพื้นที่ป่าถูกเผาไหม้ไปแล้วกว่า 1,000 ไร่
ขณะที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "เตรียมปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวไม่มีกำหนด จนกว่าจะแก้ไขปัญหาลักลอบเผาป่า บุกรุก ล่าสัตว์และจัดระเบียบที่พักและโฮมสเตย์ได้ เนื่องจากมีการลักลอบเผาป่าทำให้พื้นที่ป่าถูกไฟป่าทำลายเสียหายมาก เสี่ยงต่อการสูญเสียระบบนิเวศพื้นที่สงวนชีวมณทลรวมถึงพรรณไม้มีค่าหายาก"
นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เปิดเผยว่า ล่าสุดได้เคลื่อนย้ายกำลังเจ้าหน้าที่เสือไฟ จากอุทยานแห่งชาติผ้าห่มปก 30 นาย เข้าไปช่วยในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวเพิ่ม เพื่อดับไฟให้ได้ภายในวันนี้ โดยไม่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ ในส่วนของการปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวนั้น เนื่องจากเป็นที่ตั้งของดอยหลวงเชียงดาว เป็นพื้นที่เปราะบางที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะมีความโดดเด่นทั้งด้านธรณีวิทยา พืชพรรณ สัตว์ป่า ประวัติศาสตร์ วิถีวัฒนธรรม จึงได้รับการประกาศจากยูเนสโกให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลโลกลำดับที่ 5 ของประเทศไทย
แต่ในปีนี้ยังไม่เกิดไฟป่ารุนแรงเหมือนทุกปี จึงได้เฝ้าระวังและวางกำลังลาดตระเวนคุมเข้มการเข้าออกป่าอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีไฟป่าหรือเกิดการลอบเผาป่าขึ้นอีก จะรายงานข้อมูลไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อประกอบการพิจารณา โดยการปิดดอยหลวงเชียงดาวนั้น จะรวมถึงการไม่ให้เข้าใช้พื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวของชุมชนด้วย จึงต้องขอความร่วมมือจากชาวบ้านให้ช่วยกันอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่ตามมาหากจำเป็นต้องประกาศปิดดอยหลวงเชียงดาว.