เชียงราย - ระทึกกันข้ามวันกับอีกค่อนคืน..ไฟป่าสามเหลี่ยมทองคำลุกไหม้ตั้งแต่วันที่ 22 เมษาฯ ลามใกล้วิทยาลัยฯป.ป.ส.ห่างแค่ 10 เมตร จนท.ระดมรถดับเพลิง 20 คัน พร้อมกำลังพลดับกันโกลาหลค่อนคืน โชคดีฝนตกห่าใหญ่ ช่วยดับได้ แต่ผืนป่าเสียหายไปกว่า 400 ไร่
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงต้องระดมกำลังกันฉีดพ่นน้ำดับไฟที่ลุกไหม้ป่า บริเวณเนินเขาหลังวิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ติดถนนแม่สาย-เชียงแสน ตรงสามเหลี่ยมทองคำชายแดนไทย-สปป.ลาว-เมียนมา ช่วงคืนที่ผ่านมา (23 เม.ย.) แบบค่อนคืน
ไฟได้โหมลุกไหม้ป่าบริเวณดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.แล้ว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปสกัดไฟพบว่าเป็นพื้นที่สูงชันและมีวัชพืชรวมทั้งต้นไม้แห้งเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ควบคุมไม่ได้และกลับลุกลามขยายวงกว้างยิ่งขึ้นอีก
ต่อมาฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน ได้ประสานไปยังท้องถิ่นใน อ.เชียงแสน และอำเภอใกล้เคียงคือ อ.แม่สาย และ อ.แม่จัน หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ฯลฯ ระดมรถดับรวมกันกว่า 20 คัน กระจายกันออกฉีดพ่นน้ำตามจุดต่างๆ พร้อมทำแนวกันไฟเพื่อไม่ให้ลุกลามออกไปอีก โดยเฉพาะไม่ให้ไฟลามเข้าสู่สถานที่ราชการอย่าง ป.ป.ส.ที่อยู่ห่างจากแนวไฟเพียงแค่ประมาณ 10 เมตร
กระทั่งกลางดึกเวลาประมาณ 22.00 น.ได้มีฝนตกลงมาประกอบกับเจ้าหน้าที่ฉีดพ่นน้ำทำให้สามารถควบคุมไฟเอาไว้ได้ในที่สุด แต่ก็พบว่ามีป่าไม้ถูกไฟเผาไหม้จนเสียหายประมาณ 400 ไร่ และพื้นที่ของ ป.ป.ส.เสียหายเพียงเล็กน้อย ทำให้เจ้าหน้าที่ยังคงวางกำลังบางส่วนไว้เพื่อป้องกันการคุกรุ่นต่อไป
ด้านกรมควบคุมมลพิษรายงานว่า ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาสภาพอากาศดีขึ้นเล็กน้อยและมีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่คืนวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังมีจุดความร้อนหรือ Hot Spot ในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และล่าสุดเกิดขึ้นที่ อ.เชียงแสน ดังกล่าวทำให้ช่วงเช้าวันที่ 24 เม.ย.นี้ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย สูงถึง 76.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย 76.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
