แม่สอด/เมียวดี - ช่วงคลี่คลาย..ชาวเมียนมาหนีตายจากเมียวดีข้ามแดนหลบภัยแม่สอดเหลือไม่ถึงพันคนแล้ว ขณะที่ KNU ยันสกัดทหารเมียนมาก่อนถึงเมียวดีได้
ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก แจ้งว่า ภายหลังสถานการณ์ชายแดนในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเริ่มสงบลงทำให้มีชาวเมียนมาที่เคยหนีภัยความไม่สงบมาพักพิงชั่วคราวในฝั่ง อ.แม่สอด-อ.อุ้มผาง จ.ตาก เดินทางกลับไปแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ไทยได้ลดสถานที่พักอาศัยในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวจากเดิม 7 พื้นที่ให้เหลือเพียง 2 พื้นที่
คือ ท่าทรายรุจิรา อ.แม่สอด และบ้านหนองหลวง อ.อุ้มผาง จ.ตาก คงเหลือชาวเมียนมาที่จุดแรกจำนวน 906 คน และแห่งที่ 2 จำนวน 77 คน รวมทั้งหมดเหลือจำนวน 983 คนเท่านั้น จากเดิมที่มีกว่า 3,000 คน แต่ล่าสุดสมัครใจเดินทางกลับไปแล้วกว่า 1,348 คน
ทั้งนี้ ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก แจ้งอีกว่า สถานการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาปรากฏข่าวสารว่ายังคงมีการปะทะกันในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแต่อยู่ลึกเข้าไปประมาณ 4-10 กิโลเมตร บริเวณบ้านผาลู อ.เมียวดี จ.เมียวดี ตรงข้ามบ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน อ.แม่สอด และบริเวณบ้านธิบาโบ อ.ชูการี จ.เมียวดี ตรงข้ามบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ จ.ตาก แต่ไม่มีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตามแนวชายแดน กระนั้น ด่านพรมแดนทั้งสะพานแห่งที่ 1 และ 2 ในฝั่งเมียนมายังคงปิดทำการชั่วคราวแต่ฝ่ายไทยเปิดตามปกติ
ด้านเพจ 𝗞𝗮𝗿𝗲𝗻 𝗡𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻𝗮𝗹 𝗨𝗻𝗶𝗼𝗻 (KNU) รายงานว่าได้ทำการโจมตีกองกำลังทหารเมียนมาที่กำลังเดินทางออกจากเมืองกอกาเร็กเพื่อจะไปยึดคืน จ.เมียวดี เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ผลการโจมตีทำให้ยึดรถหุ้มเกราะได้ 1 คัน และรถทหาร 2 คัน มีทหารเมียนมาในขบวนเสียชีวิต 6 นาย โดย 2 นายเป็นระดับร้อยเอกและอีกนายเป็นร้อยโทด้วย พร้อมกันนี้สามารถยึดอาวุธได้เป็นจำนวนมาก ส่วนการต่อสู้เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ในเมียวดี ทาง KNU รายงานว่ามีทหารเมียนมาเสียชีวิตตรงบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมยแห่งที่ 2 เป็นจำนวนมาก และมีนายทหารได้รับบาดเจ็บด้วย
