บุรีรัมย์ - ตำรวจบุรีรัมย์เร่งล่ามือปืนบุกจ่อยิงเผาขนเซียนมวย “ดำช่องจอม” ดับคารถตู้ หลังนำนักมวยมาชกในงานฉลองพัดยศเจ้าอาวาสวัดหนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เมียซึ่งอยู่ในเหตุการณ์กำลังจะเปิดประตูขึ้นรถอีกฝั่งจึงไม่เห็นมือปืน เผยสามีเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่นไม่เคยมีปัญหากับใคร ไม่รู้ปมที่ถูกสังหาร
วันนี้ (22 เม.ย. 67) พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.ธีรพล ยมนา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกระสัง, พ.ต.ท.ธัชพล ชิณวงษ์ รอง ผกก.ป.สภ.กระสัง, กองกำกับการสืบสวนภูธร จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระสัง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ภายในวัดหนองเต็ง ต.หนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ หลังได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด บุกจ่อยิงในระยะเผาขน นายเปลี่ยนวิถี หรือ “เสี่ยดำ ช่องจอม” อายุ 56 ปี ชาว ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายมวยอยู่ที่ จ.สุรินทร์ ถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบขนาด บริเวณท้ายทอยและศีรษะ 2 นัด เสียชีวิตในลักษณะเอนเบาะนอนพัก อยู่บนรถตู้ยี่ห้อฮุนได สีเทา เป็นรถมาจากประเทศกัมพูชา หลังนำมวยมาชก 2 คู่ ในงานฉลองพัดยศเจ้าอาวาสวัดหนองเต็ง ต.หนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบบริเวณกระจกหน้ารถ มีร่องรอยกระสุนกระทบใส่แตก 1 จุด คาดว่าน่าจะเป็นกระสุนที่ยิงพลาด เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันนี้ (22 เม.ย. 67)
โดยผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่าย เร่งหาข้อมูลเบาะแสและสอบปากคำผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุปมการสังหารโหดเซียนมวย และรวบรวมพยานหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
นางนิตยา ต้องถือดี อายุ 46 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า โดยปกติเวลาที่จะพานักมวยไปชกที่ไหน ตนจะติดตามสามีไปด้วย ซึ่งวันเกิดเหตุก็มาถึงวัดในช่วงเย็น ก็มีการจัดชกมวยตั้งแต่ช่วงหัวค่ำจนถึงประมาณตี 4.30 น. ตนกับสามีและเพื่อนๆ ที่มาด้วยกันในรถรวม 5-6 คน ก็กำลังจะขึ้นรถ โดยสามีขึ้นไปนั่งบนรถก่อน ส่วนตนกำลังจะเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งอีกฝั่งแต่ยังไม่ทันได้เปิดประตู ก็ได้ยินเสียงคล้ายปืนดังขึ้น 3 นัด แต่เสียงไม่ดังมากตอนแรกยังไม่รู้ว่าสามีถูกยิง กระทั่งเปิดประตูจะขึ้นรถจึงเห็นสามีเสียชีวิตบนเบาะคนขับ
แต่ตนมองไม่เห็นว่าใครเป็นคนยิง คนที่มาด้วยกันต่างก็ตกใจทำอะไรไม่ถูกก่อนจะแจ้งคนในงานให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่มาดู ซึ่งจุดที่รถจอดห่างจากเวทีมวยประมาณ 50 เมตร ตนไม่รู้ว่าสามีถูกยิงเพราะสาเหตุอะไร เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นสามีมีเรื่องกับใคร เพราะสามีเป็นคนอารมณ์ดีรักเพื่อน ชอบช่วยเหลือคนอื่น เวลาเพื่อนๆจัดมวยก็จะมาช่วยงานกันตลอดวันเกิดเหตุก็พานักมวยมาชก 2 คู่ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี
ด้านนายอดิเรก บูรณ์เจริญ พ่อค้าขายของใกล้กับสถานที่จัดมวย เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนไม่เห็น มารู้ก็ตอนที่ทางผู้จัดมวยบนเวทีประกาศ ว่าให้เรียกตำรวจมาเพราะมีเหตุยิงกัน ถึงรู้ว่าเกิดเหตุมึนถูกยิงเสียชีวิต จากนั้นก็มีคนไปดูจำนวนมาก แต่คนไม่ได้เข้าใกล้จึงไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น และเพราะสาเหตุอะไรถึงถูกยิงเสียชีวิต เพราะช่วงที่มีการชกมวยก็ไม่เห็นใครมีปัญหาอะไรในงาน แต่มาเกิดเหตุตอนที่มวยเลิกแล้ว ทั้งผู้จัดคนดูก็กำลังแยกย้ายกันกลับ
