ลำพูน - ตำรวจ บช.ปส.สนธิกำลัง ตร.แม่ทา ไล่ล่าสกัดจับคู่หูชาวบรรพตพิสัย..หนึ่งควบรถอเนกประสงค์ดัดแปลงทำช่องลับซุกยาบ้า 3 ล้านเม็ด-ไอซ์อีก 4 กก.แหกด่านฯ อีกหนึ่งขับเก๋งนำทาง พบลำเลียงจากแหล่งพักยานรกพื้นที่แม่แตง เชียงใหม่
วันนี้ (20 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) กก.2 และ กก.3 บก.ปส.3 ได้ควบคุมตัวนายสมศักดิ์ และนายสมรักษ์ คู่หูชาว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ วัย 53 ปีเท่ากัน พร้อมของกลางยาเสพติดประเภทยาบ้า 3 ล้านเม็ด ไอซ์ 4 กิโลกรัม รถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อ SUZUKI ป้ายทะเบียนกรุงเทพฯ 1 คัน และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ TOYOTA ป้ายทะเบียน จ.นนทบุรี อีก 1 คัน
ดำเนินคดีในข้อหา "“ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยทั่วไป"
การจับกุมคู่หูชาวบรรพตพิสัยดังกล่าวนี้มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดได้ขนของกลางจากชายแดนผ่านเข้าสู่ชั้นในของประเทศแล้วช่วงเย็นวันที่ 19 ที่ผ่านมา จึงได้ร่วมกับ สภ.แม่ทา จ.ลำพูน วางกำลังสกัดเอาไว้ที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่ทา บนถนนซูเปอร์ไฮเวย์สายเชียงใหม่-ลำปาง ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา
ต่อมาได้ตรวจพบรถยนต์อเนกประสงค์คันดังกล่าวขับผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณหยุดตรวจแต่คนขับกลับเร่งเครื่องฝ่าด่านไปอย่างรวดเร็ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับอันตรายจึงได้นำรถออกไล่ติดตามจนสกัดเอาไว้ได้ จากการตรวจค้นพบนายสมศักดิ์เป็นคนขับ พื้นรถทำเป็นช่องลับ เมื่อเปิดออกดูก็พบห่อบรรจุยาเสพติดจำนวนดังกล่าวอยู่เต็มจึงได้จับกุมตัวนายสมศักดิ์เอาไว้
และเมื่อสอบสวนขยายผลทราบว่ามีคนขับรถยนต์เก๋งนำล่วงหน้าไปแล้ว 1 คัน เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมตัวได้อีกคน ตรวจสอบทราบชื่อภายหลังคือนายสมรักษ์ดังกล่าว
เบื้องต้นทราบว่ายาเสพติดทั้งหมดถูกนำมาจากชายแดนไทย-เมียนมา และนำไปพักไว้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จากนั้นค่อยๆ ลักลอบขนเข้าสู่ชั้นในของประเทศ
ทั้งนี้ ช่วงเวลาใกล้เคียงกันตำรวจ ปส.ได้สกัดรถยนต์กระบะ 3 คัน ติดคอกเหล็กขนยาบ้าเลี่ยงด่านตรวจแก่งปันเต๊า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว มุ่งหน้าไปทาง อ.แม่แตง บนถนนพื้นที่หมู่บ้านปางกว้าง ต.อินทขิล ต.แม่แตง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมเป็น 2 คน ยาบ้าอีก 73 กระสอบ รวมจำนวน 14.6 ล้านเม็ด