เชียงใหม่ - จนท.อุทยานแห่งชาติผาแดง และทหารชุดเฉพาะกิจไชยานุภาพรวบพรานป่าเชียงดาวคาด่านสกัด พร้อมของกลาง “เต่าปูลู” สัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย จำนวน 17 ตัว น้ำหนักรวมเกือบ 8 กิโลกรัม ที่ลักลอบเข้าไปจับมาจากลำห้วยป่าต้นน้ำในเขตอุทยานฯ สารภาพรับใบสั่งล่าส่งขายนายทุนกิโลกรัมละ 2,400 บาท แถมจับตรวจฉี่เจอสีม่วง ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีหลายข้อหา พร้อมขยายผล
วันนี้ (18 เม.ย. 67) นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแดง ว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 67 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติผาแดงร่วมกับกำลังทหารชุดเฉพาะกิจไชยานุภาพ บก.ผาดง ร่วมกันตั้งจุดสกัดเพื่อคัดกรองคนเข้าป่า ตามยุทธการเสือเฝ้าป่าบริเวณบ้านรินหลวง หมู่ 3 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
กระทั่งเวลาประมาณ 21.30 น.ของวันดังกล่าว พบชายขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อจะผ่านด่านตรวจ มีท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้น พบเต่าปูลูจำนวน 17 ตัวในกระสอบปุ๋ยที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้ที่สะพายอีกชั้นหนึ่ง โดยยังมีชีวิตอยู่ 16 ตัว และตายแล้ว 1 ตัว น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 7.8 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมชายดังกล่าวไว้เนื่องจากเต่าปูลูเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ห้ามผู้ใดล่า ค้า หรือครอบครอง รวมทั้งซากของสัตว์ป่าดังกล่าว
ขณะที่จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าชายดังกล่าวชื่อ นายยูดะ อายุ 50 ปี ราษฎรบ้านแกน้อย (หย่อมบ้านนาศิริ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายแดง ไม่ทราบนามสกุล ชาว อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งรู้จักตอนไปทำงานด้วยกันที่ในเมืองเชียงใหม่เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว โดยได้ติดต่อกันผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ซึ่งจากการตรวจสอบพบข้อความการสนทนาซื้อขายเต่าปูลูและการนัดหมายส่งของที่นายแดงได้ว่าจ้างให้หาเต่าปูลู และจะให้ค่าจ้างหลังส่งเต่าเสร็จในราคากิโลกรัมละ 2,400 บาท ซึ่งนายยูดะได้ทำการล่าตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. 67 เป็นต้นมา ใช้เวลาล่าอยู่ประมาณ 10 วัน
ทั้งนี้ ได้นัดหมายส่งเต่าปูลูกันที่บ้านห้วยป่าฮ่อม หมู่ 5 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ แต่มาโดนเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ขอตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของนายยูดะ โดยพบผลเป็นบวก ซึ่งนายยูดะรับสารภาพว่าได้เสพยาบ้า 1 เม็ดครึ่งเมื่อ 4 วันที่แล้วในระหว่างการล่าเต่าปูลู จากนั้นในวันที่ 17 เม.ย. 67 ได้ให้นายยูดะพาไปชี้จุดที่ล่าเต่าปูลู พบว่าอยู่ป่าต้นน้ำบ้านนาศิริ บริเวณลำห้วยน้ำเฮื้อง หรือลำห้วยผาแดง ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแดง เสร็จแล้วควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรนาหวายดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลจับกุมผู้ร่วมกระทำผิด ส่วนเต่าปูลูนั้นปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหานายยูดะในหลายความผิด ได้แก่ 1. นำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (3) และมาตรา 43 ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้สั่งให้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 และมาตรา 47 ตามประกาศอุทยานแห่งชาติผาแดง ฉบับลงวันที่ 31 มกราคม 2567 เรื่องห้ามเข้าไปในเขตป่าอุทยานแห่งชาติผาแดง ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
3. ล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 12 และมาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. มีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 และมาตรา 92 ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5. ค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าวตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 29 และมาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ