เมียวดี/แม่สอด - เส้นทางการค้าไทย-พม่า ผ่านแม่สอด/เมียวดี ส่อเปลี่ยน..หลัง KNU บุกยึดค่ายทหารเมียนมาหัวเมืองติดชายแดน ผู้ค้ารายใหญ่เบนเข็มนำเข้า-ส่งออกสินค้าล็อตใหญ่ผ่านทางเรือตรงเข้าย่างกุ้งแทน ลดความเสี่ยง-ลดเบี้ยบ้ายรายทาง
หลังกองกำลัง KNU พร้อมพันธมิตรต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาเข้ายึดพื้นที่ทางทหารใน จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง หัวเมืองชายแดนสำคัญตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ไว้แล้วและมีการประกาศแถลงการณ์ว่าจะเข้าบริหารพื้นที่ แต่ยังคงมีกองกำลังทหารเมียนมาที่ตกค้าง รวมทั้งมีรายงานว่ามีการเสริมกำลังเพื่อจะเข้ายึดเมืองคืน ทำให้ยังมีการปะทะกันประปราย
และเนื่องจากมีการสู้รบกันระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังต่อต้าน ณ เมืองก๊อกกาเร็ก กับรอบนอกเมืองเมียวดี รัศมีไม่เกิน 30 กว่ากิโลเมตร ทำให้การเดินทาง และการขนส่งสินค้าจากไทยเข้าพื้นที่ชั้นในของเมียนมา ผ่านทางเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ปรับเปลี่ยนไป โดยจากเมือง Kyon Doe มีถนนเบี่ยงมาอีกเส้นทางหนึ่ง ข้ามภูเขา Dawna ไปอ้อมที่เมืองโก๊กโก (ฉ่วยโก๊กโก๋) แล้วถึงเข้ามาในตัวเมืองเมียวดี ระยะทางที่เป็นทางเบี่ยงราวๆ 120-130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเกือบ 7 ชั่วโมง เพราะต้องสลับให้รถฝั่งหนึ่งหยุดให้อีกฝั่งข้ามภูเขา
อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้การขนส่งสินค้าเข้าเมียนมาผ่านช่องทางชายแดนแม่สอด ก็เป็นเพียงการค้าในท้องถิ่นที่มีมูลค่าไม่มากนัก เพราะพ่อค้าไม่มั่นใจในความปลอดภัย ขณะที่การค้าที่มีมูลค่าสูงผู้ประกอบการก็หันไปขนส่งทางเรือ เข้า-ออกทางย่างกุ้งแทน ซึ่งนั่นหมายถึงรัฐบาลพม่าเก็บภาษีการค้ากับเพื่อนบ้านได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย จากเดิมที่ขบวนสินค้าที่ผ่านแม่สอดเข้าเมียนมาจะต้องผ่านด่านของกองกำลังกลุ่มต่างๆ ที่ต่อสู้กับกองทัพเมียนมาดังกล่าว
ขณะที่หน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ที่นอกจากจะตรึงกำลังดูแลชายแดนทั่วไปแล้ว ยังดูแลเรื่องรถบรรทุกที่ยังขนส่งสินค้าข้ามไปมาผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 รวมทั้งการเข้าออกของผู้คนโดยเฉพาะผู้ที่เข้ามายังฝั่งไทย
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไทยนายหนึ่งระบุว่า ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีกองกำลังติดอาวุธอยู่หลายกลุ่ม เฉพาะกะเหรี่ยง KNU มีการแยกตัวตั้งกลุ่มกันเองมากถึง 14 กลุ่ม คุมพื้นที่ทางตอนเหนือ 7 กลุ่ม และใต้ของเมียวดี 7 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีหลักการคล้ายกันแต่วิธีการมีความแตกต่างกัน
ดังนั้น ในการประสานงานเราจึงมีความเห็นร่วมกันคือให้พื้นที่นี้มีความปลอดภัยหรือเซฟโซนเพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนและการขนส่งสินค้าเพื่อการดำรงชีพ ส่วนพื้นที่ตอนในเข้าไปก็เป็นเรื่องของบางกลุ่มที่เขาจะดำเนินการ ทั้งนี้หลังเหตุการณ์โจมตีฐานทหารเมียนมาพื้นที่เมียวดี ก็ได้มีการประสานไปยังภาพรวมหลายๆ กลุ่มแล้ว กระทั่งวันนี้ก็ยังอยู่ในห้วงของการพูดคุยกันอยู่
ส่วนการเสริมกำลังของเมียนมานั้นพบว่าการเดินทางในพื้นที่ยากลำบาก ทั้งจากสภาพภูมิประเทศ บางจุดต้องข้ามแม่น้ำ สะพานก็ถูกทำลาย ฯลฯ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมาถึงได้ในเร็ววัน ดังนั้นสะพานมิตรภาพทั้งแห่งที่ 1 และ 2 จึงได้มีการเปิดเพื่อให้มีการขนส่งสินค้าและประชาชนเดินทางข้ามไปมาและเล่นน้ำสงกรานต์ได้ตามปกติ
ด้านเพจเฟซบุ๊กท้องถิ่นในแม่สอด แพร่ภาพประชาชนได้เข้าไปให้กำลังใจทหารไทยที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ดูแลบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ในช่วงที่มีการสู้รบในฝั่ง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือ KNU และพันธมิตรบุกเข้ายึดครองได้สำเร็จตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.เป็นต้นมา แต่ยังคงมีการสู้รบกับทหารเมียนมาที่ตกค้างอยู่บริเวณตะเข็บชายแดน
เป็นภาพและคลิปชาวบ้านนำน้ำดื่ม เครื่องดื่มต่างๆ อาหาร ฯลฯ โดยบางคนรวมตัวกันเป็นกลุ่มแล้วนำใส่รถกระบะไปมอบให้เจ้าหน้าที่บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำเมยที่เป็นเส้นเขตแดน บางรายขับขี่รถจักรยานยนต์นำไปมอบให้ทหารกับมือ บางกลุ่มเป็นเด็กๆ ฯลฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กล่าวขอบคุณพร้อมแจ้งว่าจะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดต่อไป
เฟซบุ๊กดังกล่าวยังระบุข้อความว่า "แทนคำขอบคุณ....จากใจประชาชน พี่น้องประชาชนในอำเภอแม่สอดนำน้ำดื่มและ น้ำหวาน เย็นๆ ชื่นใจ มามอบให้พี่น้องทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ที่ปฏิบัติหน้าที่ ปกป้องอธิปไตย และรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หน่วยเฉพาะกิจราชมนู"