xs
xsm
sm
md
lg

“ร้านสราญ” ร่วมฉลอง 123 ปีสมุทรสงคราม เปิดตัวเมนูอาหารไทยโบราณที่หารับประทานยากสมัยสุโขทัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมุทรสงคราม - “ร้านสราญ” ร่วมฉลอง 123 ปีก่อตั้งจังหวัดสมุทรสงคาม เปิดตัวสำรับอาหารชุดพิเศษ “รสสราญ สำราญใจ” นำเสนอเมนูอาหารไทยโบราณที่หารับประทานยาก เป็นเมนูอาหารไทยโบราณและอาหารท้องถิ่นผสมผสานกันเป็นมื้ออร่อยและมีคุณค่าทางใจ ประกอบด้วยอาหารไทยที่ปรากฏในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
           
ในโอกาสครบ 123 ปีการตั้งจังหวัดสมุทรสงคราม ร้านสราญ โดยคุณรมนัส ถิรมนัส อายุ 54 ปี เจ้าของร้านกล่าวว่า ทางร้านได้มีแคมเปญ “เทศกาลท่องเที่ยวฉลอง 123 ปีจังหวัดสมุทรสงคราม” โดยนำเสนอสำรับอาหารชุดพิเศษ “รสสราญ สำราญใจ” เป็นเมนูอาหารไทยโบราณและอาหารท้องถิ่นผสมผสานกันเป็นมื้ออร่อยและมีคุณค่าทางใจ ประกอบด้วยอาหารไทยที่ปรากฏในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานทั้ง appetizer หรือของว่างเรียกน้ำย่อย และอาหารจานหลัก สำหรับ 2-4 ท่าน
           
ได้แก่ “แสร้งว่ากุ้ง” เดิมเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวปักษ์ใต้ที่นำไตปลามาต้มแล้วยำรวมกับเครื่องยำ กินเคียงกับปลาดุกฟู แต่เนื่องจากชาววังไม่คุ้นชินกับกลิ่นแรงของไตปลาจึงเปลี่ยนเป็นเนื้อกุ้งแทน แล้วเรียก “แสร้งว่ากุ้ง” คือแสร้งว่าเป็นไตปลานั่นเอง โดยนำกุ้งย่างให้หอมแล้วปรุงรสด้วยน้ำมะนาว ใส่พริกขี้หนู ใบมะกรูด ข่า ขิง หอมแดง และตะไคร้ รสชาติเปรี้ยวอมหวานมีเค็มปะแล่มนิดนึง สมัยโบราณแสร้งว่ากุ้งจะกินกับปลาดุกฟู แต่สมุทรสงครามเป็นเมืองขึ้นชื่อของปลาทูจึงกินคู่กับปลาทูฟู
           
ส่วน “แกงรัญจวน” มีที่มาจากสำรับอาหารในวังมักจะเสวยอย่างละนิดละหน่อย ทำให้มีเนื้อหลงเหลืออยู่มาก ฝ่ายห้องครัวจึงนำมาปรุงรสใส่น้ำพริกกะปิ สำหรับสูตรดั้งเดิมใช้เนื้อวัวติดเอ็นเคี่ยวกับสมุนไพร คือตะไคร้ หอมแดง ใบมะกรูด เมื่อได้ที่แล้ว ใส่น้ำพริกกะปิ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าวและน้ำมะนาว ชิมรสตามชอบ แล้วโรยใบโหระพาลงไป ตามด้วยพริกชี้ฟ้าแดง แต่ทางร้านประยุกต์ใช้เนื้อหมูสันนอกเพราะต้องการนำเสนอแบบเมนูฟิวชันเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น

คุณรมนัส เล่าอีกว่า ยังมี “กุ้งคลุมแห” หรือ “กุ้งนอนแห” เป็นอาหารที่ประยุกต์มาจากล่าเตียง ซึ่งสมุทรสงครามเป็นแหล่งกุ้งแม่น้ำ ทางร้านจึงนำมาทำกุ้งคลุมแห เพิ่มรสชาติด้วยเนื้อหมูหมักและเครื่องปรุงแล้วพอกตัวกุ้งนำไปอบ จากนั้นทำแพไข่หุ้มตัวกุ้ง ลักษณะคล้ายกุ้งนอนอยู่บนแหหรือตาข่าย เป็นอาหารไทยวิจิตรหากินได้ยาก มาประยุกต์กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟูด

ส่วนของว่างคือ “ช่อม่วง” และ “ค้างคาวเผือก” สันนิษฐานว่าของว่างทั้ง 2 ชนิดเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 ขนมช่อม่วงมีลักษณะเป็นแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งท้าวยายม่อม นำมานวดจนเนียน แล้วห่อไส้ที่ทำจากเนื้อไก่หรือเนื้อหมูนำมาผัดกับเครื่องปรุงรส รากผักชี กระเทียม พริกไทย หอมใหญ่ และถั่วลิสง จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก ส่วนสีม่วงมาจากดอกอัญชันที่นำมาต้มเพื่อสกัดสี แล้วนำมาผสมกับแป้งก่อนห่อไส้ จึงทำให้ขนมมีสีม่วงสวยงาม รับประทานกับผักเคียงคือ ผักชี ต้นหอม พริกขี้หนู กระเทียมเจียว แต่ที่ร้านสราญได้นำมาประยุกต์เป็นช่อม่วงหลากสีด้วยสีจากธรรมชาติ
           
ส่วนค้างคาวเผือก มีที่มาจากรูปทรงสามเหลี่ยมของตัวค้างคาว ตัวขนมทำจากแป้งสาลี และเผือกที่ต้มแล้วนำมานวดกับแป้งจนได้ที่ จากนั้นห่อไส้คือมะพร้าวขาวขูด เนื้อกุ้งสับ แล้วนำไปทอด เมื่อทานราดด้วยน้ำจิ้มอาจาดที่ชูรสชาติของขนมอย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมี “ปลากะพงทอดซอสเสาวรส” ตามด้วยของหวานคือ “ทับทิมกรอบมะพร้าวกะทิ” และตบท้ายด้วย “น้ำดอกดาหลา”

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่อยากให้ทุกท่านได้มากิน และตลอดเดือนเมษายน 2567 นี้ ร้านสราญมีแคมเปญสำรับอาหารชุดพิเศษ “รสสราญ สำราญใจ”.จำหน่ายราคาพิเศษ 1,230 บาท จากราคาปกติ 1,505 บาท ผู้สนใจสั่งจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ทางโทรศัพท์ 09-6721-5619 หรือ inbox ที่เพจร้านสราญ ร้านสราญอยู่ตรงสามแยกไฟแดง ทางเข้าตลาดน้ำอัมพวา เปิดทุกวัน วันจันทร์-พฤหัส เวลา 11.00-20.00 น. และศุกร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-21.00 น.










กำลังโหลดความคิดเห็น