เชียงใหม่ - ฝุ่นควันเชียงใหม่สุดเลวร้ายค่ามลพิษสูงลิ่วยึดอันดับ 1 ของโลกต่อเนื่อง เหตุไฟไหม้ป่าผุดไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ขณะที่จังหวัดเตรียมออกประกาศให้ Work from Home และงดใช้สวนสาธารณะแล้ว
วันนี้ (8 เม.ย. 67) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า สถานการณ์ฝุ่นควัน ไฟป่า และมลพิษอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่องจากการที่เกิดไฟไหม้ป่าเป็นจำนวนมากทั่วพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISDA) ระบุว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงของวันที่ 7 เม.ย. 67 พบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือรวมทั้งสิ้น 1,027 จุด อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 236 จุด ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 1 ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน 295 จุด, อันดับ 3 ตาก 86 จุด, อันดับ 4 น่าน 71 จุด และอันดับ 5 ลำพูน 40 จุด
ด้านศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจุดความร้อนรอบเช้าประจำวันที่ 8 เม.ย. 67 ว่าพบจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่จำนวน 143 จุด มากที่สุดในพื้นที่อำเภอเชียงดาว 33 จุด รองลงไป ได้แก่ แม่แจ่ม 17 จุด, ฝาง 15 จุด, แม่อาย 12 จุด, แม่แตง 10 จุด, ดอยเต่า 7 จุด, ฮอด 7 จุด, กัลยาณิวัฒนา 7 จุด, พร้าว 6 จุด, สะเมิง 5 จุด, ไชยปราการ 5 จุด, อมก๋อย 4 จุด, สันกำแพง 4 จุด, แม่วาง 3 จุด, จอมทอง 3 จุด, เวียงแหง 2 จุด, ดอยหล่อ 1 จุด, ดอยสะเก็ด 1 จุด และหางดง 1 จุด ขณะที่รอบบ่ายจังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนจำนวน 65 จุด พบมากที่สุดในพื้นที่อำเภอเวียงแหง 13 จุด รองลงไป ได้แก่ อมก๋อย 11 จุด, แม่แจ่ม 7 จุด, เชียงดาว 6 จุด, ไชยปราการ 5 จุด, แม่อาย 5 จุด, จอมทอง 5 จุด, แม่วาง 4 จุด, ฝาง 4 จุด, แม่แตง 2 จุด, หางดง 1 จุด, สะเมิง 1 จุด และสันกำแพง 1 จุด
ส่วนรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีของกรมควบคุมมลพิษที่ติดตั้งอยู่ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้ อยู่ที่ 138 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 128.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 135.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 98.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 168.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 105.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 264, 254, 261, 224, 294 และ 231 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ทั้งนี้ ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่เว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 176 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 103.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาดังกล่าวอยู่ในอันดับที่ 1 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก ขณะที่อันดับ 2 ได้แก่ เดลี ประเทศอินเดีย ดัชนีคุณภาพอากาศ 162 US AQI และอันดับ 3 กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล 159 US AQI
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า จากสถานการณ์วิกฤตฝุ่นควัน ไฟป่า และมลพิษอากาศที่เลวร้ายต่อเนื่องนั้น ทางจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมออกประกาศให้มีการจัดการทำงานแบบ Work from Home โดยไม่ให้กระทบต่อการทำงานขององค์กรหรือหน่วยงาน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่นควัน ไฟป่า และมลพิษอากาศ ขณะเดียวกันเตรียมประกาศให้มีการงดใช้สวนสาธารณะเป็นเวลา 3 วัน หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นด้วย