นครพนม - สุดเถื่อน แก๊งโจ๋บ้านคำสว่าง ต.วังตามัว โชว์กร่างแสดงความเป็นเจ้าถิ่น ดักปาระเบิดปิงปองใส่คู่อริหลังกลับจากงานบุญหมอลำซิ่ง โดนหัว “น้องไทเกอร์” อายุ 15 ปี สมองกระจายดับคาที่ ตำรวจชุดสืบสวนเร่งล่าตัวคนก่อเหตุ หดหู่ใจ ครอบครัวยากจน ชาวบ้านช่วยทำบุญบริจาคค่าทำศพ พี่สาววอนตำรวจล่าคนก่อเหตุมารับผิด
ความคืบหน้ากรณี พ.ต.ต.ภูวนัฐ วงค์ษาภา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่บ้านคำสว่าง ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม ทะเลาะวิวาทกัน มีการปาระเบิดปิงปอง หลังเลิกงานบุญหมอลำในพื้นที่บ้านดอนกลาง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.นครพนม เป็นพื้นที่ติดต่อกันกับ ต.วังตาเมือง อ.เมือง จ.นครพนม มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เหตุเกิดบริเวณถนนทางหลวงแผ่นดิน 22 ฝั่งขาเข้าเมือง สายสกลนคร-นครพนม บ้านโนนชมพู หมู่ 5 ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม ในช่วงดึกคืนวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังตำรวจได้ประสานทีมสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม ร่วมชันสูตรเก็บหลักฐาน
ทราบชื่อผู้ตายภายหลังคือ นายธนัท สานต์ศิริ หรือน้องไทเกอร์ อายุ 15 ปี ชาวบ้านโนนชมพู หมู่ 4 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม สภาพศพเสียชีวิตจากแรงระเบิดปิงปอง ทำให้ศีรษะมีแผลฉกรรจ์เลือดไหลเป็นทางทั่วพื้นถนน เกิดเหตุขณะผู้ตายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ นายท็อป อายุ 18 ปี รุ่นพี่ ไปเที่ยวงานด้วยกัน ขากลับมีแก๊งวัยรุ่นคู่อริที่อยู่ในพื้นที่ บ้านคำสว่าง ต.วังตามัว อ.เมือง ดักปาระเบิดปิงปอง เชื่อว่าประดิษฐ์ขึ้นเองหวังก่อเหตุทำร้ายคู่อริ เนื่องจากแสดงความเป็นเจ้าถิ่นตามประสาวัยรุ่น
ทำให้ระเบิดปิงปองโดนน้องไทเกอร์จนเสียชีวิต และตกจากรถจักรยานยนต์ห่างจากจุดที่ถูกปาระเบิดปิงปองประมาณ 100 เมตร ส่วนกลุ่มคนก่อเหตุยังหลบหนี ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนมกำลังเร่งตรวจสอบหาหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
เบื้องต้นชุดสืบสวนพอรู้ตัวเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่บ้านคำสว่าง กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานมัดตัวคนก่อเหตุ แต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอ เนื่องจากจุดเกิดเหตุห่างจากชุมชน เป็นช่วงกลางดึก ไม่มีกล้องวงจรปิด และยังไม่มีพยานออกมายืนยัน ส่วนสาเหตุเชื่อว่ามีความไม่พอใจกันตามประสาวัยรุ่นขณะไปเที่ยวงานหมอลำ และมีการดักทำร้ายกันขากลับ
สอบถาม นางสาวแววตา สานต์สิริ อายุ 25 ปี พี่สาวผู้ตาย บอกว่า น้องชายที่เสียชีวิต เป็นคนสุดท้อง ยังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน พ่อเสียชีวิตเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา แม่ไปทำงานต่างจังหวัด ยอมรับครอบครัวยากจน มีตนเป็นคนดูแลน้องแทนแม่ ก่อนเกิดเหตุไปเที่ยวงานตามประสาวัยรุ่น สอบถามเพื่อนยืนยันว่าไม่มีเรื่องชกต่อยกันในงาน แต่เชื่อว่ามีกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นคึกคะนอง โชคร้ายมากโดนระเบิดปิงปองปาโดนศีรษะจนเสียชีวิตคาที่ ตกจากรถจักรยานยนต์ของเพื่อนรุ่นพี่
“อยากให้ตำรวจเร่งรัดคดี จับคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ยอมรับว่าครอบครัวยากจน โดยการทำบุญบำเพ็ญกุศลให้น้องชายที่เสียชีวิตยังต้องขอรับการช่วยเหลือจากชาวบ้านร่วมทำบุญบริจาคตามศรัทธา”
