ศูนย์ข่าวศรีราชา -จัดใหญ่อีกครั้งการแข่งขันเต้นระดับโลก "UDO ASIA PACIFIC STREET DANCE CHAMPIONSHIP 2024" โดยในปีนี้ประเทศไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันที่ จ.ชลบุรี ติดต่อกันเป็นปีที่ 2
วันนี้ (5 เม.ย.) นายฉัตรชัย ทิมกระจ่าง นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา พร้อมด้วยทีมบริหาร UDO Thailand Director of UDO Thailand นายรณกฤต ไกรกิจราษฎร์ และ Mr. Simon Dibley ผู้ก่อตั้ง UDO WORLD ได้ร่วมกันเปิดการแข่ง "UDO ASIA PACIFIC STREET DANCE CHAMPIONSHIP 2024" ที่จัดโดยทีมไทยแลนด์ ณ Sri Racha Hall ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 4-7 เม.ย.2567
โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการคัดเลือกตัวแทนระดับเอเชียแปซิฟิกเข้าสู่การแข่งขันในระดับโลก รวมทั้งส่งเสริมความสามารถในการเต้นของเยาวชนไทย และสนับสนุนให้วงการการเต้น street dance ในประเทศไทย และต่างประเทศเติบโตขึ้น สร้างคุณภาพการเต้นที่ดีต่อเยาวชน และนักเต้น เพื่อสืบสานและส่งต่อกันไปในวงกว้าง
นอกจากนั้น ยังเป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ของเยาวชนไทยให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมสนับสนุน
โดยในปี 2567 นี้ประเทศไทยยังได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งขันในของส่วนภูมิภาคเอเชียติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ภายใต้ชื่องาน "UDO ASIA PACIFIC STREET DANCE CHAMPIONSHIP 2024" ซึ่งมีทีมนักเต้น และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นตัวแทนจาก 11 ประเทศเข้าร่วม เช่น ไทย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ดูไบ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย พม่า เวียดนาม และยังมีผู้เข้าร่วมชมงานรวมกว่า 2,000 คน
สำหรับ UDO : THE UNITED DANCE ORGANISATION คือองค์กรการเต้นสตรีทแดนซ์จากประเทศอังกฤษ ที่จัดการแข่งขันเต้น Street Dance UDO WORLD CHAMPIONSHIP และได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 มีสมาชิกจาก 30 ประเทศ และได้จัดแข่งขันอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 16 ปี
ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมชมและเชียร์ได้จนถึงวันที่ 7 เม.ย.นี้ พร้อมร่วมแสดงความยินดีกับทีมที่ชนะการแข่งขันในรุ่นต่างๆ ที่จะมีการประกาศผลในวันที่ 7 เม.ย.2567 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน
ทั้งนี้ ใน 2566 ประเทศไทยได้ส่งเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันที่เมือง “UDO WORLD STREET DANCE CHAMPIONSHIP 2023” ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแบล็คพูล ประเทศอังกฤษ จนสามารถสร้างผลงานคว้าชัยชนะได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งการแข่งขันดังกล่าวนับว่าเป็นเวทีที่มีชื่อเสียงระดับโลก และยังสามารถดึงดูดนักเต้นให้เข้าร่วมชิงชัยได้มากถึง 3,800 คน จาก 35 ประเทศทั่วโลก
