รวบมารศาสนากลางวันเป็นพระ กลางคืนกลายร่างเป็นพ่อค้ายาบ้าอาศัยกำแพงวัดส่งของ

ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา ​- มารศาสนากลางวันเป็นพระภิกษุสงฆ์ กลางคืนกลายร่างเป็นพ่อค้ายาบ้าอาศัยกำแพงวัดเป็นจุดกระจายของให้วัยรุ่นและแรงงานในพื้นที่ ตำรวจตามตะครุบคาผ้าเหลือง ยึดของกลางอื้อ สารภาพทำมานานถึง 2 พรรษา

ค่ำวานนี้ (4 เม.ย.)​ พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ กาสา สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้เข้าปิดล้อมวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อจับพระลูกวัดซึ่งมีพฤติกรรมลักลอบค้ายาบ้าให้ชาวบ้านในพื้นที่ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านอยู่บ่อยครั้ง

โดยเบื้องต้นได้ให้สายลับเข้าติดต่อล่อซื้อยาบ้าจำนวน 10 เม็ด จากหลวงพี่รูปหนึ่ง กระทั่งมีการนำยาบ้ามาส่งมอบให้สายลับตามจุดที่นัดหมาย  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัว ทราบชื่อคือ พระขันติจิตโต หรือหลวงพี่โต้ง หรือนายนเรศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี 

และจากการตรวจค้นในสบงยังพบเงินสดที่ใช้ในการล่อซื้อจำนวน 500 บาท  และยังพบยาบ้าอีกจำนวน 115 เม็ด  ยาไอซ์ 3 ซอง น้ำหนักรวม 15 กรัม ซึ่งทั้งหมดถูกบรรจุในถุงห่อพลาสติกสีน้ำเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน



นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคุมตัวหลวงพี่รูปดังกล่าวไปตรวจค้นภายในกุฏิจนพบยาบ้า และยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงสมุดบันทึก เบอร์โทรศัพท์ รายชื่อลูกค้าและอดีตนักโทษ ในเรือนจำพิเศษเมืองพัทยา จึงยึดไว้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมในการสืบสวนขยายผล ก่อนจะนิมนต์หลวงพี่ไปทำการสึกกับเจ้าอาวาสวัด 

เบื้องต้น นายนเรศ หรืออดีตหลวงพี่โต้ง ให้การยอมรับสารภาพว่า บวชอยู่ที่วัดแห่งนี้มานาน 2 พรรษาแล้ว และในช่วงกลางวันจะปฏิบัติกิจของสงฆ์ตามปกติ แต่เมื่อตกกลางคืนจะกลายร่างเป็นนักค้ายาเสพติด ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มผู้ใช้แรงงานในชุมชนหมู่บ้านตะเคียนเตี้ย แลจะมีการส่งยากันที่บริเวณกำแพงวัด 

ส่วนยาเสพติดที่พบซื้อมาจาก นายโก๊ะ เอเยนต์ค้ายาในพื้นที่ กระทั่งถูกตำรวจตามจับกุมได้ดังกล่าว


ทั้งนี้ พ.ต.อ.นาวิน  ผกก.สภ.บางละมุง เผยว่า เจ้าหน้าที่ทีมชุดสืบสวนได้เฝ้าดูพฤติกรรมของพระรูปนี้มาเป็นเวลานานแล้วหลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่ามีพ่อค้ายาเสพติดโดยอาศัยผ้าเหลืองแอบขายทั้งยาบ้าและยาไอซ์ ภายในพื้นที่บริเวณวัด จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูล ก่อนจะเข้าจับกุมพระนอกรีตรายนี้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

และจากการตรวจสอบยังพบหลวงพี่รายนี้มีสารเสพติดอยู่ในร่างกายจึงแจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิด “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการขายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” 

และจะได้ขยายผลจับกุมผู้ค้ารายอื่นและผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป