เชียงใหม่ - หนุ่มลูกจ้างเหยื่อนายจ้างโหดหักเงินเดือนจนติดลบ พร้อมอดีตเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน เข้ายื่นคำร้องต่อสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่เพื่อขอความเป็นธรรมและให้ช่วยตรวจสอบนายจ้าง เบื้องต้น จนท.พบการหักเงินไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เตรียมออกหนังสือเชิญนายจ้างที่เป็นผู้ประกอบการติดตั้งอินเทอร์เน็ตค่ายใหญ่เข้าชี้แจงและคืนเงินให้ลูกจ้าง หากฝ่าฝืนจ่อดำเนินคดี
ความคืบหน้ากรณีเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว” เปิดเผยเรื่องราวของนายเจ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี หนุ่มลูกจ้างตำแหน่งช่างของห้างหุ้นส่วนจำกัดรายหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่รับติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้านให้กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตชื่อดัง ซึ่งร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากการที่ถูกนายจ้างหักเงินเดือนจนกลายเป็นติดลบ จากเงินเดือน 15,000 บาท แต่กลับถูกหักเป็นค่าต่างๆ อย่างไม่เป็นธรรม รวมแล้วเป็นเงินกว่า 16,000 บาท พร้อมถูกบังคับให้เขียนใบลาออกจากงาน โดยไม่คืนเงินประกันความเสียหายจากการทำงานที่นายจ้างเก็บไว้ 6,000 บาทคืนให้ด้วย ทำให้ไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว และครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากไม่มีเงินใช้จ่าย แม้กระทั่งค่านมลูกสาวอายุ 1 ขวบที่เลี้ยงดูเพียงลำพัง ซึ่งเบื้องต้นทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เข้าพบลูกจ้างที่เป็นผู้เสียหายตั้งแต่วานนี้ (3 เม.ย. 67) เพื่อสอบถามข้อมูลรายละเอียด และทำให้ทราบว่ายังมีอดีตเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้เสียหายลักษณะเดียวกันนี้อีกหลายราย
วันนี้ (4 เม.ย. 67) ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ นายเจ (นามสมมติ) พร้อมนายอัด (นามสมมติ) และนายเจมส์ (นามสมมติ) อดีตเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน ที่เป็นผู้เสียหายถูกกระทำจากนายจ้ายรายเดียวกัน เดินทางเข้าพบนายสุวรรณ์ สวัสดิ์มูล สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ และนางศิริญาพร ศิริเมธาวัธน์ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ ให้ดำเนินการตรวจสอบอดีตนายจ้างที่เป็นผู้ประกอบการเอกชนรับติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้านให้กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตชื่อดัง และให้ความเป็นธรรมแก่กลุ่มผู้เสียหาย กรณีที่ถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบและปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน จากกรณีที่นายจ้างหักเงินเดือนอย่างไม่เป็นธรรม โดยอ้างกฎระเบียบที่นายจ้างกำหนดขึ้นมา โดยเฉพาะกรณีของนายเจ (นามสมมติ) ที่ถูกหักเงินจนกลายเป็นติดลบ และถูกบังคับให้เขียนใบลาออก
ทั้งนี้ นายเจ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย บอกว่า นอกจากตัวเองแล้วยังมีอดีตเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้เสียหายถูกนายจ้างหักเงินเดือนอย่างไม่เป็นธรรมอีกหลายราย โดยวันนี้มีอดีตเพื่อนร่วมงานอีก 2 คนเข้ายื่นคำร้องพร้อมกัน ขณะที่รายอื่นๆ น่าจะทยอยเข้ายื่นคำร้องต่อไป สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นกับตัวเองที่ถูกหักเงินเดือนจนกลายเป็นติดลบนั้น ถือว่าเป็นกรณีที่รุนแรงที่สุด และเมื่อตัวเองตัดสินใจนำเรื่องราวออกมาเปิดเผยจึงทำให้อีกหลายคนกล้าที่จะออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง ซึ่งกรณีที่ตัวเองขาดงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้านั้นยอมรับว่ามีส่วนผิด แต่มองว่าการลงโทษหักเงินตามกฎของนายจ้างนั้นรุนแรงเกินไปและไม่เป็นธรรม รวมทั้งอาจจะผิดกฎหมายอื่นๆ ด้วย เพราะตลอดเวลาที่ทำงานไม่เคยได้รับสวัสดิการอย่างที่ควรจะเป็น, ไม่มีค่าล่วงเวลา, ไม่มีวันหยุดตามประเพณี และไม่เคยได้รับเอกสารหลักฐานการจ่ายเงินเดือนและหลักฐานการหักเงินใดๆ เลย จึงต้องมายื่นคำร้องที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่เพื่อขอให้ตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับตัวเองและลูกจ้างคนอื่นๆ ด้วย
ด้านนายอัด (นามสมมติ) และนายเจมส์ (นามสมมติ) อดีตลูกจ้างที่เป็นผู้เสียหายจากนายจ้างรายเดียวกัน เปิดเผยว่า ในช่วงที่ทำงานอยู่กับอดีตนายจ้างนั้นจะถูกหักเงินเดือนอยู่ตลอด ด้วยเหตุผลว่าทำผิดกฎระเบียบอย่างหนึ่งอย่างใดที่นายจ้างกำหนดขึ้นมาเสมอ เช่น เข้าทำงานช้า, ขาดงาน, ทำงานได้ไม่ถึงเป้า หรือแม้กระทั่งเจ็บป่วยแขนหักเข้าโรงพยาบาลก็ยังหักเงิน โดยไม่เคยมีเดือนใดที่ได้รับเงินเดือนเต็มเลยแม้แต่เดือนเดียว นอกจากนี้นายจ้างยังไม่มีการจ่ายค่าล่วงเวลา, ไม่มีวันหยุดตามประเพณี, ไม่มีการทำประกันสังคมให้ลูกจ้าง, ไม่มีการออกเอกสารรับรองการหักภาษี, ไม่เคยมีการออกเอกสารหลักฐานการจ่ายเงินเดือนให้ และไม่มีสวัสดิการใดๆ ให้ด้วย โดยในช่วงที่ทำงานอยู่นั้น รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่อยู่ในภาวะจำยอมที่ต้องหารายได้ จนกระทั่งทนไม่ไหวและต้องลาออกเอง โดยนายจ้างไม่คืนเงินประกัน 6,000 บาทให้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาไม่ทราบว่ามีกฎหมายคุ้มครองลูกจ้างในเรื่องนี้ จึงไม่ได้ดำเนินการใดๆ กระทั่งมาเกิดกรณีของนายเจ (นามสมมติ) ทำให้อยากออกมาร้องขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง รวมทั้งลูกจ้างคนอื่นๆ ทั้งที่เป็นอดีตลูกจ้างและยังทำงานอยู่กับนายจ้างรายนี้
ขณะที่นายสุวรรณ์ สวัสดิ์มูล สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เบื้องต้นเมื่อทางลูกจ้างที่เป็นผู้เสียหายได้ยื่นคำร้องแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ทำหนังสือแจ้งให้นายจ้างทราบพร้อมเชิญมาให้ข้อมูลรายละเอียดข้อเท็จจริง โดยในส่วนของเงินที่หักไปจากเงินเดือนของลูกจ้างอย่างไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย รวมทั้งเงินประกันของลูกจ้างที่ยังไม่ได้รับคืนนั้น เมื่อตรวจสอบแล้วว่าเป็นจำนวนเท่าใด ทางนายจ้างจะต้องคืนเงินจำนวนนั้นให้แก่ลูกจ้างทั้งหมด ซึ่งหากนายจ้างยินยอมก็เป็นอันว่าในกรณีการหักเงินลูกจ้างจบลงด้วยดี แต่หากนายจ้างไม่ยินยอมแล้ว ทางเจ้าพนักงานจะมีการออกคำสั่งให้จ่ายเงินคืนแก่ลูกจ้าง และหากยังฝ่าฝืนจะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับกรณีอื่นๆ ของนายจ้างรายนี้นั้น ในลำดับต่อไปทางเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบสภาพการจ้างงานว่านายจ้างรายนี้มีการปฏิบัติทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร หากพบว่ามีประเด็นใดที่ไม่ถูกต้องจะออกคำสั่งให้ทำการปรับปรุงแก้ไขและปฏิบัติให้ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น กฎระเบียบต่างๆ และการหักเงินลูกจ้างนั้น หากไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้และต้องแก้ไข หากยังไม่ปฏิบัติตามจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป