xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) รถขนแรงงานลาวคว่ำเจ็บ 15 คน จับอีก 11 คนขณะจะกลับเที่ยวสงกรานต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุบลราชธานี - ตำรวจทางหลวงอุบลฯ รวบรถตู้ขนแรงงานต่างด้าวลาวขณะเดินทางกลับบ้านที่ สปป.ลาวหลังจากหลบหนีเข้าเมืองไปทำงานที่กรุงเทพฯนานกว่า 2 ปี ส่วนอีกคันขนแรงงานลาว ชนท้ายเก๋งถนนโชคชัย-เดชอุดม บาดเจ็บรวม 15 ราย


สำหรับเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 2 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอุบลราชธานี นำโดย พ.ต.ท.กีรติ เหิมศรีชาติ สารวัตรตำรวจทางหลวงอุบลราชธานี พร้อมรถวิทยุสายตรวจ 6405 นำกำลังออกตรวจพื้นที่ถนนอุบล-ตระการพืชผล ทางหลวงหมายเลข 2050 แยกขุมคำ ต.แก่งเค็ง อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี พบรถตู้จำนวน 2 คัน วิ่งตามกันมาจึงได้ส่งสัญญาณเรียกขอตรวจค้น ภายในรถตู้คันที่ 1 พบบรรทุกผู้โดยสารชาวลาวทั้งหมด 18 คน จะไปอำเภอเขมราฐ ทั้งหมดมีเอกสารพาสปอร์ต เข้าเมืองอย่างถูกต้องจึงได้ปล่อยตัวไป

ส่วนคันที่ 2 เป็นรถตู้โตโยต้าสีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ฮร 2380 กรุงเทพฯ มีนายสำราญ ยนท์พละ อายุ 47 ปี ชาว ต.กุดยาลวน อ.ตระการพืชผล เป็นผู้ขับขี่ ภายในรถพบผู้โดยสารเป็นแรงงานชาวลาว ชาย-หญิง 11 คน แยกเป็นเด็ก 5 คน ผู้ใหญ่ 6 คน ทั้งหมดยอมรับว่าเป็นแรงงานหลบหนีเข้าเมืองเพื่อไปรับจ้างที่กรุงเทพฯ  เมื่อ 2 ปีก่อน กำลังจะกลับบ้านที่แขวงสาละวันเพื่อเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ แต่ก็มาถูกจับก่อน


ส่วนรายที่ 2 เกิดเมื่อเวลา 04.40 น. วันที่ 2 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เดชอุดมได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถตู้ชนท้ายรถยนต์เก๋ง บริเวณหน้าโรงน้ำแข็งกรเดช ถนนทางหลวงหมายเลข 24 โชคชัย-เดชอุดม มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถตู้โตโยต้า สีขาวหมายเลขทะเบียน 36-1545 กรุงเทพฯ มีนายสิริชัย ไผ่โสภา อายุ 42 ปี เป็นผู้ขับขี่

ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นแรงงานชาวลาว 13 คน มีเอกสารพาสปอร์ตทุกคน เป็นคนไทย 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม คู่กรณีอีกฝ่ายเป็นรถเก๋งนิสสัน สีเทา หมายเลขทะเบียน ขก 9382 อุบลราชธานี


จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายสิริชัยรับแรงงานชาวลาวกลับจากกรุงเทพฯ เพื่อจะไปส่งที่ด่านช่องเม็ก อำเภอสิรินธร เที่ยวเทศกาลวันสงกรานต์ที่ประเทศลาว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักชนท้ายรถเก๋ง ทำให้พลิกคว่ำตกลงไปในคลองน้ำ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและจะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น