เชียงใหม่ - สวนสัตว์เชียงใหม่เปิดให้เข้าชมแล้ว “ทะเลบนยอดดอย” เชียงใหม่ ซู อควาเรียม ตั้งแต่ 1 เม.ย. 67 หลังปิดปรับปรุงจนเสร็จสมบูรณ์ พร้อมบัตรราคาพิเศษต้อนรับเด็กๆ ปิดภาคเรียนและนักท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ เปิดประสบการณ์ท่องโลกใต้น้ำในอุโมงค์ยาวที่สุดในโลก 133 เมตร ชมปลาสวยงามหายากทั้งน้ำจืดและน้ำทะเลหลากหลายสายพันธุ์
วันนี้ (1 เม.ย. 67) ที่เชียงใหม่ ซู อควาเรียม หรือสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ สวนสัตว์เชียงใหม่ นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยนายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ และนายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ ประธานกรรมการบริษัทมารีน สเคป ประเทศไทย จำกัด ผู้บริหารเชียงใหม่ ซู อควาเรียม ร่วมกันทำพิธีเปิดให้เข้าชมเชียงใหม่ ซู อควาเรียม อีกครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 67 เป็นต้นไป หลังจากที่ปิดให้บริการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 66 เพื่อดำเนินการปรับปรุงด้วยงบประมาณราว 29 ล้านบาท จนกระทั่งแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย พร้อมต้อนรับประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2567 ที่กำลังจะมาถึง โดยจัดโปรโมชันบัตรเข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมเข้าชมเชียงใหม่ ซู อควาเรียม ราคาพิเศษ สำหรับคนไทย ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 175 บาท และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 640 บาท เด็ก 375 บาท
ทั้งนี้ นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า เชียงใหม่ ซู อควาเรียม ถือเป็นสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่มีความพิเศษเป็นอย่างมาก จากการที่เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้และรวบรวมพันธุ์สัตว์น้ำทั้งน้ำจืดและน้ำทะเลไว้มากมายหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งรวบรวมและจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทะเล รวมทั้งเพาะขยายพันธุ์และดูแลบริหารจัดการสวัสดิภาพสัตว์ได้เป็นอย่างดีด้วย จนได้รับการยกย่องเปรียบเทียบให้เป็น “ทะเลบนยอดดอย” ซึ่งเป็นจุดดึงดูดสำคัญที่ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยในช่วงที่เชียงใหม่ ซู อควาเรียม ต้องปิดปรับปรุงนั้น ส่งผลทำให้รายได้ของสวนสัตว์เชียงใหม่ลดลงไปประมาณ 20-30% ซึ่งเมื่อกลับมาเปิดให้เข้าชมได้แล้ว เบื้องต้นเชื่อว่าจะทำให้รายได้ของสวนสัตว์เชียงใหม่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10%
ขณะที่นายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ ประธานกรรมการบริษัทมารีน สเคป ประเทศไทย ผู้บริหารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำในสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ชีวิตสัตว์น้ำที่สำคัญของประเทศไทย ที่มีการจัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดและพันธุ์ปลาน้ำทะเลหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งภายในประกอบไปด้วยอุโมงค์ปลาน้ำจืดและปลาน้ำทะเลที่มีความยาว 133 เมตร นับว่าเป็นอุโมงค์ปลาที่ยาวที่สุดในโลก การดำเนินการปรับปรุงต่างๆ เริ่มจากการปรับปรุงระบบเครื่องปรับอากาศให้มีความเย็นสบาย อากาศถ่ายเทได้ดี พร้อมเปลี่ยนระบบทางเดินให้มีความสะดวกปลอดภัย ตลอดจนถึงการปรับปรุงระบบช่วยชีวิตปลาให้มีคุณภาพดีเพื่อสุขภาพและสวัสดิภาพที่ดียิ่งขึ้น
โดยสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งนี้ได้มีการนำปลาน้ำจืดหลากหลายสายพันธุ์ มากกว่า 80 ชนิดมาจัดแสดง เริ่มจากลุ่มแม่น้ำโขงจนถึงป่าลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาหลากหลายชนิดเป็นจำนวนมากที่สุดในประเทศ ส่วนในโซนปลาน้ำทะเล ได้มีการจัดแสดงฝูงปลาฉลามมากกว่า 30 ตัว และการจัดตู้ปลาในลักษณะการจำลองจัดแสดงให้เห็นถึงอันตรายของสภาวะโลกร้อนในอนาคตจะก่อให้เกิดภูเขาน้ำแข็งละลาย เกิดน้ำท่วมทำให้สิ่งก่อสร้างที่สำคัญต่างๆ ในโลกถูกน้ำทะเลท่วมและจมสู่ใต้ท้องทะเลในที่สุด ดังนั้น การแสดงในลักษณะนี้จึงเป็นการสร้างความตระหนักให้ทุกคนเห็นว่าสภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้สิ่งมีชีวิตสิ่งปลูกสร้างในโลกเกิดความเสียหายต่อไป