ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โบสถ์หินภูเขาไฟสไตล์อินเดียแห่งเดียวของไทย ที่วัดแหลมทองศรีวราราม อ.หนองบุญมาก โคราช ไร้ปัจจัยบูรณะจนใกล้พัง เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบูรณะซ่อมแซม
วัดแหลมทองศรีวราราม บ้านแหลมทอง หมู่ที่ 3 ต.แหลมทอง อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา มีพระอุโบสถที่มีความแปลกแตกต่างจากพระอุโบสถทั่วไป และมีความสวยงามเด่นสะดุดตา เนื่องจากโครงสร้างของตัวพระอุโบสถนั้นลักษณะคล้ายกับวิหารของประเทศอินเดีย และที่สำคัญวัสดุที่นำมาใช้ในการก่อสร้างโบสถ์นั้นส่วนใหญ่เป็นหินสีแดง มีลักษณะพรุนจำนวนหลายร้อยตัน ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า หินภูเขาไฟ ใช้เป็นส่วนประกอบของผนังและเพดานตัวพระอุโบสถ ทำให้ได้เห็นมุมของความสวยงามในอีกมิติหนึ่ง ถือว่าเป็นพระอุโบสถที่มีความแปลกใหม่และสวยงามไม่เหมือนวัดใดๆ
ประกอบกับบรรยากาศรอบบริเวณวัดที่มีความร่มรื่นของต้นไม้นานาชนิด จึงทำให้พระอุโบสถหลังนี้ดูเด่นเข้มขลังเพิ่มมากขึ้น เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ ควรมาเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งพระอุโบสถหินภูเขาไฟสไตล์อินเดียที่สร้างจากหินภูเขาไฟแห่งนี้ถือเป็นแห่งเดียวที่มีอยู่ในประเทศไทย ตอนนี้เริ่มชำรุดทรุดโทรมลงอย่างมาก เพราะขาดปัจจัยมาบูรณะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์
พระอาจารย์อานนท์ โสภณจิตโต รองเจ้าอาวาสวัดแหลมทองศรีวราราม บอกว่า พระอุโบสถหลังนี้เริ่มดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 ซึ่งตอนที่เริ่มก่อสร้างอาตมาภาพยังเป็นเด็กเล็ก โดยก่อสร้างตามแบบที่ทางพระราชวิมลโมลี อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา สรรหามาให้โดยยึดเอาแบบมาจากประเทศอินเดีย และประกอบกับในพื้นที่นั้นมีหินภูเขาเป็นจำนวนมาก ทางชาวบ้านจึงช่วยกันขนมาใช้เป็นวัสดุนำมาประกอบการก่อสร้าง ซึ่งถือเป็นการประหยัดงบประมาณ และนำวัสดุที่มีอยู่ตามธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังได้ความรักความสามัคคีกันระหว่างชาวบ้านในชุมชนอีกด้วย ซึ่งมาถึงวันนี้ใช้เวลาก่อสร้างมานานกว่า 30 ปีแล้ว
แต่ด้วยความที่ก่อสร้างมานานและไม่ได้มีการสานงานอย่างต่อเนื่อง เพราะเจ้าอาวาสที่เริ่มสร้างก็มรณภาพไปแล้วหลายท่าน จึงทำให้พระอุโบสถแห่งนี้ทรุดโทรมและเริ่มพังไปหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณเพดานของพระอุโบสถ ที่ตอนนี้เริ่มหลุดร่อนเนื่องจากตากฟ้าตากฝนมานาน จึงจำเป็นต้องปิดไม่ได้เปิดให้ใครเข้าไปชมภายในตัวพระอุโบสถเกรงว่าจะเกิดอันตราย เพราะทางวัดไม่มีปัจจัยที่จะมาดำเนินการบูรณะซ่อมแซมได้ เนื่องจากเป็นวัดเล็กๆ กฐินแต่ละปีก็ได้ไม่กี่แสนบาท ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี เพราะที่ผ่านมายังไม่มีใครอาสาเป็นเจ้าภาพมาดำเนินการให้คงต้องปล่อยให้อยู่อย่างนี้ไปก่อนแม้ว่าอยากจะบูรณะซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติก็ตาม
ทั้งนี้ หากท่านใดมีจิตศรัทธาอยากร่วมบูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถหลังนี้ สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่พระอาจารย์อานนท์ โสภณจิตโต รองเจ้าอาวาสวัดแหลมทองศรีวราราม หมายเลขโทรศัพท์ 06-2259-9053