เชียงใหม่ - วิกฤตฝุ่นควันเชียงใหม่ยังหนักหน่วง จุดความร้อนจากไฟไหม้ป่าเพียบทั่วพื้นที่ ค่ามลพิษอากาศสูงติดลมบนยึดแนวหน้าเมืองหลักที่มีคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในโลก และเกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ขณะที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์ พร้อมแนะนำงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง และย้ำกลุ่มเสี่ยงต้องระวังเป็นพิเศษ
วันนี้ (31 มี.ค. 67) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมหนาทึบด้วยฝุ่นควันไฟป่าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบางจุดสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นเหม็นไหม้ได้ด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการเกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่ที่ไม่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนัก โดยตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีรายงานว่าเกิดไฟไหม้ป่าเกิดขึ้นหลายจุดในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยด้วย ทั้งนี้ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISDA) ระบุว่าในรอบ 24 ชั่วโมงของวันที่ 30 มี.ค. 67 พบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือรวมทั้งสิ้น 1,262 จุด อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 247 จุด ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 1 ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน 504 จุด, อันดับ 3 ตาก 174 จุด, อันดับ 4 ลำปาง 88 จุด, อันดับ 5 น่าน 43 จุด
รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีของกรมควบคุมมลพิษที่ติดตั้งอยู่ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้อยู่ที่ 97.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 95.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 92.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 68.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 144.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 98.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 223,221,218,184,270 และ 224 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ทั้งนี้ ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ด้านเว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลกแจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 169 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 90.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศดังกล่าวอยู่ในอันดับที่ 3 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก ขณะที่อันดับ 1 ได้แก่ เดลี ประเทศอินเดีย ดัชนีคุณภาพอากาศ 187 US AQI และอันดับ 3 การาจี ประเทศปากีสถาน 177 US AQI
ขณะเดียวกัน วันนี้ (31 มี.ค. 67) สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ออกประกาศ เรื่อง คุณภาพอากาศเกินมาตรฐานบริเวณภาคเหนือตอนบน (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) ฉบับที่ 19 (19/2567) ระบุว่า วันที่ 31 มีนาคม 2567 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน สถานการณ์คุณภาพอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยปริมาณฝุ่น PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. มีค่าระหว่าง 68.9-184.9 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ "เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าภาคเหนือมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 38-41องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม. แนวโน้มการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากแต่สภาวะอากาศใกล้ผิวพื้นที่มีลักษณะปิด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อย สำหรับวันที่ 2-5 เม.ย. การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ไม่ดีถึงอ่อนส่งผลให้ความเข้มข้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเฝ้าระวังสุขภาพ โดยงดกิจกรรมกลางแจ้ง แต่หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัว เด็ก และคนชรา หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ และควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์จำเป็นให้พร้อมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาทุกชนิดเพื่อลดการเกิดฝุ่นควันสะสมในอากาศอันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ประชาชนหรือผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ที่เฟซบุ๊ก "สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1" หรือเว็บไซต์ "air4thai.pcd.go.th" หรือแอปพลิเคชัน "Air4thai"