พิจิตร - “สนามจักรยานสราญจิตมงคลสุข บึงสีไฟ” คึกคักต่อเนื่อง..หลัง อบจ.-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุ่มฟื้นฟูจนคืนสภาพสมเป็นแลนด์มาร์กพิจิตร ผู้คนแห่นำสองล้อคู่ใจปั่นออกกำลังกายตามรอยเสด็จ แถมคิวแข่งน่องเหล็กเริ่มเข้าถี่ยิบ
ด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม หลัง อบจ.พิจิตรบูรณาการร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ของจังหวัดพิจิตร ใช้เวลากว่า 3 ปี พัฒนาฟื้นคืนชีพบึงสีไฟ พื้นที่ประมาณ 5,300 ไร่เศษ จากที่เคยเป็นป่ารกร้างเต็มไปด้วยวัชพืชทั้งบนบกและในน้ำ จนเกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างสวยสดงดงาม กลายเป็นแลนด์มาร์กของพิจิตรเมืองชาละวันได้อย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง
รวมทั้งมีเส้นทางจักรยานรอบบึงสีไฟเป็นระยะทาง 10.28 กม. และมีความกว้างของทางจักรยาน 10.28 เมตร ซึ่งเลข 10 หมายถึง ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ เลข 28 หมายถึง วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภายในพื้นที่บึงสีไฟยังมี “สนามจักรยานสราญจิตมงคลสุข” สนามจักรยานที่ได้รับนามพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดสนามเมื่อ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้สนามจักรยานแห่งนี้เป็นที่รู้จักของคนไทยและนักปั่นจักรยานทั่วสารทิศต่างตั้งเป้าเดินทางไปปั่นจักรยานตามรอยเสด็จกัน
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาภาคประชาชนและนักปั่นจักรยานชาวพิจิตรเกือบ 1 พันคนได้นัดรวมตัวกันสวมเสื้อสีเหลืองร่วมปั่นจักรยานตามรอยเสด็จ เป็นการเทิดพระเกียรติรวมถึงเป็นการออกกำลังกายเสริมสร้างสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรงและสนุกสนานกับการขี่จักรยานสมดั่งชื่อ สนามจักรยาน “สราญจิตมงคลสุข”
ล่าสุดวันนี้ (30 มี.ค.) ก็มีการเปิดสนามจักรยาน “สราญจิตมงคลสุข” แข่งขันจักรยานประเภทถนน “บึงสีไฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โรดเรซ” พร้อมกับเตรียมจัดการแข่งขันศึกสองล้อทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ประเภททีมชาย สเตจที่ 5-6 ในวันที่ 5-6 เม.ย. 67 โดยใช้พื้นที่บริเวณบึงสีไฟ แลนด์มาร์กพิจิตร เป็นเส้นทางหลักในการแข่งขันทั้ง 2 รายการ ซึ่งจะมีนักปั่นจักรยานและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมแข่งขัน
สำหรับ “บึงสีไฟ” ปัจจุบันมีพื้นที่ประมาณ 5,300 ไร่เศษ พลิกโฉมจากที่เคยเป็นป่ารกร้างเต็มไปด้วยวัชพืชทั้งบนบกและในน้ำ จนเกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างสวยสดงดงาม กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ขี่จักรยาน จากทั่วสารทิศมาเยี่ยมเยียนบึงสีไฟอย่างไม่ขาดสาย ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของเมืองพิจิตรให้คึกคักได้อีกทางหนึ่ง