xs
xsm
sm
md
lg

จนท.ลุยดำเนินคดีอดีตนายทหาร-นายทุน ผุดรีสอร์ตหรูวิวสวยติดอ่างฯห้วยน้ำชุนใหญ่-เขาค้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพชรบูรณ์ – ทหาร กอ.รมน.พร้อมชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้-สายตรวจ สบอ.11 หน่วยป้องกันฯพช.2-เทศบาลฯแคมป์สน ลุยยึดรีสอร์ตหรูวิวสวยติดอ่างฯห้วยน้ำชุนใหญ่-เขาค้อ พบอดีตนายทหารจับมือนายทุน ทำโรงแรม-โดมที่พัก รับลูกค้าคืนละ 6,000 บาท


วันนี้(29 มี.ค.)พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ สายตรวจปราบปราม สบอ.11 พิษณุโลก หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2(เขาค้อ)และเทศบาลตำบลแคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าริมทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก - หล่มสัก) ในท้องที่หมู่ 7 บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ตามที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีการก่อสร้างรีสอร์ต และร้านกาแฟ ซึ่งด้านหลังรีสอร์ตมีพื้นที่ติดกับบริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำชุนใหญ่ด้วย

เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางถึง พบว่าบริเวณทางโค้งริมถนน หมายเลข 12 มีการเปิดเหล็กกั้นริมถนนเป็นช่องทางให้รถเข้าไปในลานจอดรถริมถนน มีอาคารร้านค้าทำด้วยไม้หลังคามุงกระเบื้อง 1 หลัง ด้านหน้าติดป้ายชื่อว่า S9 glamming resort khao kho และมีอาคารคอนกรีตชั้นเดียวหลังคามุงด้วยกระเบื้องสีฟ้า กำลังก่อสร้างเทพื้นคอนกรีต 1 หลัง

และพบอดีตนายทหาร ม.พัน.18 พล.ม.1 จ.เพชรบูรณ์ วัย 65 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของที่ดิน เจ้าหน้าที่จึงให้นำชี้ขอบเขตที่ดินจับค่าพิกัด และสอบปากคำไว้ให้การว่า ร่วมทุนสร้างรีสอร์ตกับนายศุภพงษ์ โดยตนเป็นเจ้าของที่และนายศุภพงษ์เป็นผู้ดำเนินกิจการ

พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าจุดที่กำลังก่อสร้าง เป็นพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 2 อยู่ในโครงการฟื้นฟู และพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2546 เพื่อป้องกัน และบรรเทาความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2544 จำนวนเนื้อที่ 132,626 ไร่ และบริเวณที่กำลังก่อสร้างไม่มีการสำรวจการถือครองตาม มติ ครม.30 มิ.ย.41 แต่มีการสำรวจข้อมูลการถือครองที่ดินเมื่อปี 2559 ระบุชื่อผู้ครอบครองคือ นายศุภฤกษ์ หรือนายสมพงษ์ เนื้อที่ 4 ไร่

และนอกจากนั้นในพื้นที่ดังกล่าวยังมีสิ่งปลูกสร้างประกอบด้วยตึก 2 คูหา 3 ชั้นมีห้องพักรวม 6 ห้อง ด้านหลังทำเป็นระเบียงชมวิวอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งมีการก่อสร้างอาคารถาวรเสาเหล็กพื้นแผ่นคอนกรีต 3 ระดับ ทำเป็นฐานสร้างห้องพักเป็นโดมขนาดใหญ่ จำนวน 12 หลัง และฐานกางเต็นท์อีก 7 ห้อง

จากการนำชี้ขอบเขตที่ดินที่ครอบครองและจับค่าพิกัดมาคำนวณพื้นที่ ได้เนื้อที่ 5 - 3 - 24 ไร่ ซึ่งเป็นการขยายพื้นที่ทำกินเดิม เมื่อตรวจสอบภาพถ่ายปี 2545 และปี 2563 พบว่าบริเวณจุดตรวจสอบ มีการทำประโยชน์มาก่อน แต่เริ่มปรากฏร่องรอยการปรับพื้นที่สร้างรีสอร์ตเมื่อปี 2563 ซึ่งเป็นการบุกรุกป่าใหม่หลังปี 2557 จึงไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น และไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามตามมติ ครม. 26 พ.ย.2561 จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมดพร้อมดำเนินคดี

และเมื่อตรวจสอบกับเทศบาลตำบลแคมป์สน ทราบว่าไม่มีการขออนุญาตก่อสร้างแต่อย่างใด จึงมอบให้เทศบาลตำบลแคมป์สน ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2522

จากการสอบสอบถามคนงานดูแลรีสอร์ตจำนวน 2 คน ให้การตรงกันว่าเจ้าของรีสอร์ตชื่อนายศุภพงษ์ อยู่กรุงเทพมหานคร เปิดบริการที่พักโรงแรม คิดค่าบริการโดมหลังละ 6,000 บาท/คืน แต่ไม่ทราบว่ามีหลักฐานการอนุญาตหรือไม่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบกับอำเภอเขาค้อ ขั้นต้นไม่พบว่ามีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่ จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ รวมจำนวน 5 - 3 - 24 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเบื้องต้นเป็นเงิน 874,500.-บาท แจ้งดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ในข้อหา ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ม.54 และม.55 ตามพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ม.21มอบให้ นายกเทศมนตรีตำบลแคมป์สนเป็นผู้กล่าวโทษ ตามพระราชบัญญัติ โรงแรม พ.ศ. 2547 ม.15 มอบให้อำเภอเขาค้อ ดำเนินการ

จากนั้นจึงได้ทำการบันทึกตรวจยึดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อ โดยมอบหมายให้ หน.โครงการฟื้นฟู และพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน สบอ.11 เป็นผู้กล่าวโทษ เพื่อติดตามตัวเจ้าของมาดำเนินคดีต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น