ลั่นพระครูปลัดเกย์ข่าวกระฉ่อนโซเชียลถูกขึ้นบัญชีดำห้ามกลับมาบวชอีกหลังพบยุ่งเกี่ยวยาเสพติด

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นลั่น กรณีพระครูปลัด อายุ 32 ปี จำพรรษาในมัญจาคีรี เล่นแอปพลิเคชันหาคู่เกย์นัดเสพสังวาสที่ขอนแก่น ต้องจับสึกเท่านั้นและต้องถูกขึ้นบัญชีดำห้ามกลับมาบวชอีกเพราะมีประวัติเสพยาเสพติดด้วย เผยความแตกเพราะเจ้าตัวนัดพระเกย์จากนครพนมมาเสพสังวาสแต่พอเจอตัวถูกปฏิเสธ ก่อนหักพวงมาลัยจนพุ่งชนฟุตปาธกลางถนนบาดเจ็บ


กรณีในสังคมออนไลน์แชร์ภาพรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขน 6928 ขอนแก่น ประสบอุบัติเหตุชนเกาะกลางถนน ถนนศรีจันทร์ บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลขอนแก่นราม ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น และมีผู้บาดเจ็บหนึ่งราย เป็นพระสงฆ์ ทราบชื่อตามบัตรประชาชนคือ พระครูปลัดนรินทร์ กิตฺติภทฺโท อายุ 32 ปี ที่อยู่ 127 หมู่ 17 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยมีข้อความระบุว่า “#จากเหตุเมื่อวานกำลังตรวจสอบทั้งหมด เบื้องต้นค้นกุฆิเช้านี้พบยาไอซ์พร้อมอุปกรณ์ 11.17 น. 26 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา

พระครูวิสุทธิธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีจันทร์และรองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึง กรณีของพระนรินทร์ที่เกิดขึ้นนั้น เบื้องต้นทางคณะสงฆ์ทราบจากทางสื่อโซเชียลว่าพระนรินทร์ขับรถคันดังกล่าว ซึ่งเป็นพระในสังกัดวัดสระทอง บ้านบัว ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และเกิดอุบัติเหตุอยู่ในเมืองขอนแก่น โดยในรถพบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่ในรถด้วย

ทางคณะสงฆ์จึงได้มีการตรวจสอบกรณีดังกล่าวขึ้น พร้อมทั้งได้สั่งการไปยังเจ้าคณะอำเภอมัญจาคีรี เจ้าคณะตำบล ตำรวจพระ และประสานฝ่ายปกครองในพื้นที่ ขอเข้าตรวจค้นภายในกุฏิพระนรินทร์ ที่วัดสระทอง ซึ่งก็พบอุปกรณ์การเสพยาเสพติด แต่ไม่พบยาเสพติด


ภายหลังการตรวจสอบ ทางคณะสงฆ์ได้มีการประชุม และมีมติให้พระนรินทร์ต้องทำการลาสิกขาภายหลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลและแพทย์สามารถให้กลับได้ โดยภายหลังจากการลาสิกขาก็จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายของทางโลก โดยทางคณะสงฆ์ได้แจ้งให้พระนรินทร์ได้ทราบในเบื้องต้นแล้ว โดยพระนรินทร์ก็ยอมรับและจะทำการลาสิกขาให้หลังจากที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล




อย่างไรก็ตาม ในกรณีพฤติกรรมของพระนรินทร์ มีการเข้ากลุ่มโซเชียลรักร่วมเพศ เพื่อนัดพบกันตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลนั้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งจะต้องรอให้ทางพระนรินทร์รักษาตัวที่โรงพยาบาลให้อาการบรรเทาเสียก่อนก็จะได้สอบถามรายละเอียดทั้งหมด แต่ในเบื้องต้นทราบว่าภาพโปรไฟล์ที่พระนรินทร์ใช้เข้ากลุ่มในแอปพลิเคชันหาคู่กลุ่มชายรักชาย เป็นภาพขณะที่เป็นฆราวาส และพระอีกรูปที่นัดพบทราบจากสื่อโซเชียลเช่นกันว่าเดินทางมาจากจังหวัดนครพนม ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลที่อยู่ในโซเชียลมีเดีย กรณีที่ไม่ตรงปก


พระครูวิสุทธิธีรคุณกล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวนั้นแม้เจ้าตัวจะปฏิเสธ ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็มีการพิสูจน์หาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว ก็จะไม่สามารถปฏิเสธได้ และกรณีที่พระสงฆ์ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก็จะต้องทำการสึกเท่านั้น และจังหวัดขอนแก่นเอง ทางคณะสงฆ์ได้ประกาศข้อห้ามชัดเจนโดยห้ามพระสงฆ์ขับรถอย่างเด็ดขาด ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2557 และหลังจากที่ทำการสึกไปแล้วพระนรินทร์ก็จะไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ เนื่องจากในช่วงที่เป็นพระมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

และหากตรวจสอบพบว่ามีความผิดในเรื่องของการเสพเมถุนร่วมด้วย ก็จะเป็นการผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง ทางคณะสงฆ์ก็จะมีการสลักหน้าใบสุทธิด้วยว่าให้สึกด้วยสาเหตุใด และปัจจุบันการตรวจสอบประวัติของพระสงฆ์ก็สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้นว่าใครทำผิดคดีอาญาอะไรบ้าง