ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “เอกราช” ส.ส.ภูมิใจไทย ขอเลื่อนฟังคำพิพากษาคดีทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 431 ล้านบาทไปเป็น 18 ธ.ค.นี้ พร้อมรับเงื่อนไขจัดหาหลักทรัพย์มูลค่า 130 ล้านบาท หรือเงิน 100 ล้านบาท มาเป็นหลักค้ำประกันภายใน 4 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 มี.ค.) ศาลจังหวัดขอนแก่นนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่นเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เป็นจำเลยในฐานความผิดร่วมกันยักยอกทรัพย์ ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม กรณีทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ระหว่างปี 2554-2562 โดยวันนี้นายเอกราชได้เดินทางมาพร้อมกับทีมทนายความ
เช่นเดียวกับฝ่ายโจทก์ร่วม นำโดยนายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ คณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด และคณะ เข้าร่วมรับฟังการอ่านคำพิพากษา
ทั้งนี้ ก่อนที่ผู้พิพากษาจะขึ้นนั่งบัลลังก์พิจารณาคดี ทนายฝ่ายจำเลยได้เจรจากับทนายโจทก์และโจทก์ร่วม โดยแจ้งว่าวันนี้ฝ่ายจำเลยได้นำเงิน 40 ล้านบาทเป็นแคชเชียร์เช็ค มาวางที่ศาลเพื่อชำระหนี้ค่าเสียหายตามฟ้อง ซึ่งตามเงื่อนไขจะต้องชำระเงินทั้งหมดคืนภายใน 5 ปี โดยชำระปีละอย่างน้อย 50 ล้านบาท เริ่มปีแรก พ.ศ. 2565 จำเลยชำระ 50 ล้านบาทเศษ แต่ปี 2566 จำเลยนำเงินมาวางศาลเพียง 10 ล้านบาท ทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นยังไม่ติดต่อขอรับเพราะผิดเงื่อนไข และในการเจรจาครั้งนี้ทนายฝ่ายจำเลยได้ขอเลื่อนการฟังคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 18 ธันวาคมปีนี้
นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ คณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้ขอให้เพิ่มหลักทรัพย์ค้ำประกันอีก 130 ล้านบาท โดยให้นำหลักทรัพย์ที่มูลค่าดังกล่าวมาวางภายในเดือนกรกฎาคม 2567 หรืออีก 4 เดือน ส่วนการชำระหนี้รายปี หรือหากเป็นเงินสด จะต้องเป็นเงินสดจำนวน 100 ล้านบาท กำหนดภายในเดือนกรกฎาคมนี้เช่นกัน ส่วนการชำระหนี้รายปีเป็นไปตามข้อตกลงเดิม 50 ล้านบาท โดยต้องนำมาชำระภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งฝ่ายจำเลยเห็นชอบตามนี้ ทั้งนี้ ศาลยังได้สอบคำให้การเพิ่มเติม จำเลยยังคงให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหาเช่นเดิม ก่อนแถลงยืนยันตามข้อตกลงของคู่ความ
นายอนุศาสตร์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การทวงคืนเงินสหกรณ์ฯ วันนี้จำเลยนำเงินมาวาง 40 ล้านบาท รวมของเดิม 10 ล้านบาทที่วางไว้กับศาล ครบ 50 ล้านบาทตามข้อตกลงประจำปี 2566 จึงไม่ติดขัดที่จำเลยขอเลื่อนฟังคำพิพากษา เพราะยึดประโยชน์ของสหกรณ์ฯ และสมาชิกเป็นสำคัญ
สำหรับ นายเอกราช ช่างเหลา เคยเป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ก่อนที่จะย้ายเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายวัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น บุตรชาย เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายเอกราช ช่างเหลา ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ตามหมายศาลจังหวัดขอนแก่น ในคดีหมายเลขดำที่ 258/2564 ที่พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่นเป็นโจทก์ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นเป็นโจทก์ร่วม กรณีกล่าวหา นายเอกราช ช่างเหลา กับพวกว่ายักยอกเงิน ปลอมแปลงเอกสารเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นกว่า 431 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นนายเอกราชเป็นอดีตผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด