นครสวรรค์ - คืบหน้าอาการ “น้องไอซ์” เด็กหญิงวัย 4 ขวบ 7 เดือน พ่อ-แม่ สงสัยถูกเพื่อนบ้านชาวพิจิตรที่รับฝากเลี้ยงทำร้ายย่ำยี ยังคงโคม่าโอกาสรอดริบหรี่ พ่อเผยถ้ามีปาฏิหาริย์ช่วยได้ดีสุดอาจฟื้นมานิทราติดเตียง
ความคืบหน้ากรณีพ่อ-แม่ชาว จ.พิจิตร แจ้งจับสองผัวเมียทำร้าย “น้องไอซ์” ลูกสาววัย 4 ขวบ 7 เดือน จนสมองบวมเป็นเจ้าหญิงนิทรา ซ้ำยังพบร่องรอยถูกข่มขืนหลังนำไปฝากเลี้ยง ซึ่งตอนนี้น้องไอซ์ยังคงมีอาการโคม่า อยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ อ.เมืองนครสวรรค์
ล่าสุดวันนี้ (26 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์เพื่อติดตามอาการของน้องไอซ์ พบว่าพ่อแม่ของเด็กกำลังอยู่ในอาการซึมเศร้าอย่างหนัก โดยเฉพาะแม่มักนั่งจ้องมองโทรศัพท์มือถือของตนเองเพื่อเปิดดูรูปลูกสาว พร้อมกับร้องไห้อยู่เป็นระยะๆ
เนื่องจากได้ทราบข่าวที่ไม่ค่อยดีนักเกี่ยวกับอาการของน้องไอซ์ที่โอกาสจะรอดมีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะจากเท่าที่แพทย์ได้ตรวจเช็กอาการในวันนี้ถือว่าเข้าขั้นวิกฤตหนักจากสมองข้างซ้ายบวมไปกดข้างขวา พร้อมกับมีอาการหัวใจเต้นแรงสลับช้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ทุกเมื่อเช่นกัน
สอบถามพ่อของน้องไอซ์ให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวว่า น้องไอซ์ยังคงนอนโคม่า ไม่รู้สึกตัวอยู่เหมือนเดิม และโอกาสดูริบหรี่มาก หากมีปาฏิหาริย์มาช่วยได้น้องก็คงกลับมาอยู่ได้แค่สภาพเป็นเจ้าหญิงนิทราเท่านั้น ส่วนเรื่องคดีตอนนี้แม้จะยังมีความกังวล แต่ก็อยากจะให้อีกฝ่ายมาสารภาพพูดความจริงกันต่อหน้าดีกว่า ก่อนที่น้องไอซ์จะทรุดลงไปมากกว่านี้ ตนต้องการความยุติธรรมคืนให้กับลูก และอยากจะให้ตำรวจทำงานในคดีนี้ให้เร็ว
“ตั้งแต่น้องไอซ์ถูกย้ายมารักษาอยู่นครสวรรค์ อีกฝ่ายไม่เคยแม้จะส่งข้อความ หรือโทร.ติดต่อกลับมาเลย มีแต่ไปให้ข่าวปรักปรำใส่ร้าย โดยเฉพาะการช่วยค่าเลี้ยงดู ที่อีกฝ่ายหาว่าฝ่ายผมโอนให้เพียงเดือนละ 200 บาทเท่านั้น ซึ่งอยากให้เข้ามาคุยความจริงกันต่อหน้าทุกอย่าง จะต่อหน้าสื่อมวลชน หรือต่อหน้าตำรวจที่โรงพักก็ได้ ผมมีสลิปหลักฐานการโอนทั้งหมด ซึ่งสุดท้ายอยากจะขอให้ฝ่ายนั้น ออกมาพูดความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้อง ก่อนที่จะไม่ได้สารภาพบาปต่อหน้าเขาอีก ส่วนเรื่องการข่มขืน ก็ต้องอยู่กับผลตรวจที่ออกมา หากผลตรวจไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งชี้ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่อยากได้ความเป็นธรรมคืนให้กับลูก มันสำคัญที่สุด”
สำหรับน้องไอซ์ ตนและภรรยาก็เพิ่งจะฝากให้เพื่อนบ้านรายนี้ดูแลเพียง 3 เดือน และที่ผ่านมาก็ช่วยค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเดือนละ 1,000 บาท จนกระทั่งน้องไอซ์มาเกิดเรื่อง จึงทำให้รู้สึกโกรธมาก พอได้เห็นสภาพลูกแล้วรับไม่ได้เลย และมันไม่น่าจะใช่แค่ปั่นรถจักรยานล้มด้วย เชื่อว่าลูกต้องถูกทำร้ายย่ำยีอย่างแน่นอน แต่ในส่วนของตอนนี้ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอก่อน ซึ่งต้องใช้เวลารอผลตรวจประมาณ 3-4 อาทิตย์จึงจะทราบผลว่าลูกประสบเหตุแค่รถจักรยานล้มจริงอย่างที่ทางฝ่ายนั้นกล่าวอ้างหรือไม่ แต่ถ้าเป็นอย่างอื่นตนยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด