เชียงใหม่ - ฝุ่นควันเชียงใหม่เสี่ยงวิกฤตซ้ำ พบจุดความร้อนไฟป่าเพิ่มทั่วพื้นที่ มากเป็นอันดับ 3 ของทั้งภาคเหนือ ดันค่ามลพิษอากาศพุ่งยึดอันดับ 2 เมืองหลักคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในโลก
วันนี้ (26 มี.ค. 67) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มมีฝุ่นควันหนาทึบจากช่วงสัปดาห์ที่แล้วที่มีฝนตกและส่งผลดีทำให้สถานการณ์มลพิษอากาศดีขึ้นและการเกิดไฟไหม้ป่าลดลง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดพบว่าการเกิดไฟไหม้ป่าในหลายพื้นที่รวมทั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้กลับมาเพิ่มมากขึ้น โดยกรมควบคุมมลพิษเผยข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISDA) ระบุว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงของวันที่ 25 มี.ค. 67 พบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมทั้งสิ้น 799 จุด อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 174 จุด ซึ่งมากเป็นอันดับ 3 รองจากแม่ฮ่องสอน 196 จุด และตาก 184 จุด
ขณะที่รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีของกรมควบคุมมลพิษที่ติดตั้งอยู่ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้ อยู่ที่ 53.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 57.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 49.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 48.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 73.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 119.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 143, 154, 133, 131, 195 และ 245 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ทั้งนี้ ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ด้านเว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 186 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 123.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศดังกล่าวถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 2 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก ขณะที่อันดับ 1 ได้แก่ ลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน ดัชนีคุณภาพอากาศ 191 US AQI และอันดับ 3 ไคโร ประเทศอียิปต์ 182 US AQI
