เชียงใหม่ - ชาวบ้านย่านเจ็ดยอดถนนคันคลองชลประทาน เมืองเชียงใหม่ แฉบาร์ดังเล่นดนตรีสดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ผู้สูงอายุ เด็กนักเรียน ตลอดจนผู้ป่วยติดเตียงได้รับความเดือดร้อนมานานกว่า 5 เดือน หน่วยงานที่รับผิดชอบทำหนังสือแจ้งเตือนยังเพิกเฉย
คลิปจากชาวบ้านรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านศักดิ์ชัยนิเวศน์ ย่านเจ็ดยอด ถนนคันคลองชลประทาน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้บันทึกช่วงกลางดึกของวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นเสียงการเล่นดนตรีสดภายในสถานบันเทิงที่ดังออกมานอกร้าน ส่วนอีกคลิปเป็นเสียงภายในห้องนอนที่ยังได้ยินเสียงดนตรีสดกลางดึกอย่างชัดเจน
นางสาวทราย (นามสมมติ) ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ร้านดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ร้าง เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 เจ้าของบาร์โฮสต์ได้เปิดให้บริการเป็นผับมีการเล่นดนตรีสดส่งเสียงดังทุกคืน นอกจากนี้ยังมีห้องครัวแบบเปิดโล่ง ทำให้ทั้งเสียงและกลิ่นกระจายฟุ้งไปทั่ว ทั้งยังมีการปล่อยน้ำเสียเรี่ยราดลงท่อระบายน้ำส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุวัยเกษียณ และเด็กนักเรียนนอนไม่ได้มานานกว่า 5 เดือน
โดยเฉพาะบ้านตนได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุดลูกสาวสองคนอายุระหว่าง 13-16 ปี ที่ขณะนี้ยังไม่ปิดเทอมไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือสอบ ทุกคืนกว่าจะได้นอนก็ตี 2-ตี 3 และต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เริ่มได้รับผลกระทบอย่างหนักทำให้กลายเป็นเด็กที่มีภาวะเครียด ส่วนตนก็ต้องกินยานอนหลับและยาคลายเครียดทุกวัน
ขณะที่แม่อายุ 76 ปี ที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง และโรคเส้นเลือดอุดตันในปอดมีอาการกำเริบ จากสภาวะความเครียดจนล้มป่วยรักษาตัวที่ห้อง ICU ช่วงปลายปีที่ผ่านมา
“เคยคุยกับคนดูแลร้านแล้วหลายครั้งจนไม่กล้าเข้าไปพูดคุยเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับคนในครอบครัวเพราะว่าอาศัยอยู่กัน 4 คนเป็นผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ ประกอบกับพนักงานในร้านเป็นผู้ชายประมาณ 10 กว่าคนจึงไม่กล้าไปยุ่ง จึงติดต่อประสานไปยังเจ้าของอาคารให้ว่ากล่าวตักเตือนผู้เช่า และพยายามเลิกสัญญาเช่า แต่ไม่มีความคืบหน้า”
นางสาวทรายกล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ตนและเพื่อนบ้านได้แจ้งเรื่องร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแล้ว จนล่าสุดเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลช้างเผือกได้ตรวจสอบพบว่าร้านดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตประกอบการ พร้อมทั้งตักเตือนร้านดังกล่าวถึง 3 ครั้ง ได้ทำหนังสือแจ้งทางร้าน 1. หยุดการกระทำใดๆ ก็ตามที่ก่อให้เกิดเสียงดังรบกวนประชาชน 2. ให้หยุดการแสดงดนตรีสดจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากพนักงานท้องถิ่น 3. ให้ปรับปรุงระบบการระบายอากาศจากการประกอบอาหาร 4. ให้ดำเนินการติดตั้งถังดักไขมัน แต่ทางร้านยังเพิกเฉย
ซึ่งบางครั้งตนทนไม่ไหวได้โทรศัพท์แจ้ง 191 ก็จะมีตำรวจสายตรวจขับรถมาเตือนเสียงก็จะเงียบไปช่วงหนึ่งพอสักพักก็เหมือนเดิม หลังจากนั้นตนจึงถ่ายคลิปวิดีโอเผยแพร่ในโซเชียลฯ กลับถูกลูกน้องเจ้าของร้านว่ากล่าวตำหนิต่างๆ นานา
ขณะที่นางสาวบี เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่ใกล้กับร้านดังกล่าวกับสามีและลูกสาวอายุ 1 ขวบ อีกคน 12 ปี ก็ได้รับผลกระทบเรื่องของเสียงดนตรีเล่นสดที่เสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนนอนไม่ได้ตลอดทั้งคืนตั้งแต่ร้านนี้เปิดมา
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินไปตรวจสอบรอบๆ หมู่บ้านดังกล่าวทราบว่าหมู่บ้านแห่งนี้ผู้ที่อาศัยอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุที่อยู่ในวัยเกษียณและเด็กนักเรียน นอกจากนี้ในหมู่บ้านยังมีผู้ป่วยติดเตียงอายุ 80 ปี พักอาศัยอยู่ด้วย ต่างได้รับผลกระทบจากร้านดังกล่าวถ้วนหน้ากันทุกคน