ตราด - อุทยานแห่งชาติเกาะช้าง ตั้งงบประมาณ 3.9 แสนบาท แก้ปัญหาลิงบนเกาะแย่งอาหาร รื้อค้นถังขยะ ทำร้ายประชาชนและนักท่องเที่ยว หลังจำนวนประชากรลิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เผย 2 มาตรการดำเนินงานทั้งจับทำหมัน หรือถึงขั้นอพยพออกจากพื้นที่ ยันปัจจุบันสถานการณ์ยังไม่รุนแรงเหมือนพื้นที่อื่น
วันนี้ (24 มี.ค.) นายเนรมิตร สงแสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จ.ตราด ได้ออกมาเปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาลิงในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ที่ขณะนี้มีจำนวนมากนับพันตัว และเริ่มสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งทำร้ายนักท่องเที่ยว รื้อบ้านพัก ถังขยะ และก่อกวนผู้เข้าพักในโรงแรม อีกทั้งยังเป็นพาหนะของการเกิดโรค
และล่าสุดยังเกิดเหตุลิงทำร้ายนักเรียนและครูถึงในโรงเรียนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย รวมทั้งเข้าไปรื้อค้นขยะและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เพื่อหาอาหาร
โดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง บอกว่าแม้ปัจจุบันปัญหาที่เกิดขึ้นจะยังไม่รุนแรง แต่อุทยานจำเป็นต้องเฝ้าระวัง และในปี 2566 ที่ผ่านทางอุทยาน ได้จัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้ประชาชนบนเกาะช้าง จำนวน 272 ราย เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากการถูกสุนัข แมว หรือลิง ข่วนและทำร้ายร่างกายด้วย
และในปี 2567 ยังมีมาตรการแก้ไขปัญหาเรื่องลิงอย่างจริงจัง หลัง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้บรรจุให้ลิงเป็นสัตว์ที่สามารถเยียวยาได้หากประชาชนถูกร้ายหรือทำความเสียหาย เช่นเดียวกับกรณีช้างป่าหรือกระทิง
"แนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องลิงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเกาะช้างนั้น เบื้องต้นคือการจับลิงทำหมันเพื่อลดจำนวนประชากร และหากยังพบจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจต้องมีการอพยพไปสถานที่อื่น แต่อย่างไรก็ตามปัญหาลิงเกาะช้างยังสร้างผลกระทบไม่มากเหมือนพื้นที่อื่นๆ ซึ่งขณะนี้อุทยานเกาะช้างได้ตั้งงบประมาณในการแก้ปัญหาต่างๆ ไว้แล้วจำนวน 3.9 แสนบาท" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง กล่าว
ด้าน นายสัญญา เกิดมณี นายกเทศบาลตำบลเกาะช้าง เผยว่า ลิงเกาะช้างที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนยากต่อการควบคุม เริ่มทำให้นักท่องเที่ยวหวาดกลัวจากพฤติกรรมแย่งอาหาร และบางครั้งยังเข้าไปในสวนผลไม้ที่ชาวบ้านกำลังจะเก็บขายได้จนทำให้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งการทำหมันต้องใช้งบประมาณถึงตัวละ 2 พันบาท จึงถือเป็นปัญหาที่อาจทำได้ยาก