ศูนย์ข่าวศรีราชา - เปิดวินาทีขณะพลทหารสังกัด มทบ.12 ปราจีนบุรี กระโดดเรือนนอน 2 ชั้น สูง 6 เมตรบาดเจ็บสาหัส พล.ต.ไพรัช แก้วศรี ผบ.มทบ.12 ยันให้ความยุติธรรม เรื่องการหาสาเหตุที่แท้จริง ตั้ง 3 ประเด็นกดดัน พร้อมให้ครอบครัวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ในพื้นที่เพื่อความสบายใจ
ชมคลิป https://fb.watch/q_bYebxJsS/?mibextid=Nif5oz
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Wanwisa Oatchai ได้โพสต์ข้อความ “พี่กูโดดเพราะมึง” เหตุเกิดในค่ายทหาร จ.ปราจีนบุรี โดยมีรายงานว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา และผู้ประสบเหตุเป็นพลทหาร จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างหนักนั้น
โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ไพรัช แก้วศรี ผบ.มทบ.12 ค่ายจักรพงษ์ พร้อมคณะนายทหารได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของ พลทหารประกิจ อายุ 23 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสเลือดคั่งในสมองหลังกระโดดจากเรือนนอนสูง 6 เมตร ที่รักษาตัวในห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน โรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ ในทันที
ขณะที่ พ.อ.อรรถสิทธิ บุญวัฒน์ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ ซึ่งเป็นแพทย์เจ้าของไข้ เผยถึงอาการของพลทหารรายดังกล่าวว่า ยังมีปัญหาเรื่องสมองบวมและมีเลือดคั่งในสมองจากภาวะสมองช้ำที่คาดว่าน่าจะเกิดจากการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
โดยอาการอยู่ในระยะวิกฤตเพราะคนไข้ไม่รู้สึกตัว ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ดูแลจนสุดความสามารถเนื่องจากอาการยังน่าเป็นห่วง และไม่รู้สึกตัวนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงกลางดึกคืนวานนี้ (22 มี.ค.) น.ส.วันวิสา และนายประสิทธิ์ น้องสาว และพ่อของพลทหารรายดังกล่าวได้เดินทางมาโรงพยาบาลค่ายจักพงษ์ และได้เข้าพูดคุยกับ พล.ต.ไพรัช แก้วศรี ผบ.มทบ.12 ค่ายจักรพงษ์ และคณะนายทหารเป็นเวลานาน ก่อนจะพากันเข้าเยี่ยมอาการพลทหารประกิจ
จากนั้นได้พากันเดินทางโดยรถตู้ไปค่ายทหาร เพื่อร่วมกันตรวจสอบเรือนนอนที่เกิดเหตุ โดยพบว่าเป็นอาคาร 2 ชั้น สูง 6 เมตร ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้ชี้แจงจุดที่พลทหารรายดังกล่าวกระโดด ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณเสาของอาคารจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผบ.มทบ.12 และผู้บังคับบัญชายยังได้พาครอบครัวของพลทหารที่ได้รับบาดเจ็บตรวจสภาพที่พักและเปิดดูตู้เก็บเสื้อผ้าของใช้ รวมทั้งสมุดบันทึกที่เก็บไว้ภายในตู้เพื่อให้ญาติได้ตรวจสอบข้อมูลว่ามีการระบุข้อความเรื่องแรงจูงใจในการก่อเหตุหรือไม่
รวมทั้งยังเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดที่ถูกติดตั้งไว้ภายในอาคารกองบัญชาการ ให้ญาติได้ตรวจสอบโดยพบว่ากล้องวงจรปิดบริเวณเสาเรือนนอน จนพบภาพในช่วงเวลา 18.43 น. ของวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะพลทหารประกิจ เปิดประตูโรงนอนเพื่อเดินไปยังระเบียงก่อนจะปีนขึ้นบนราวระเบียงกระโดดลงไปด้านล่าง
พล.ต.ไพรัช แก้วศรี ผบ.มทบ.12 เผยว่าจากการที่ทั้งผู้สื่อข่าวและญาติตรวจสอบจุดเกิดเหตุและดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว จากนี้จะเร่งหาสาเหตุและแรงจูงใจในการตัดสินใจกระโดดเรือนนอนของพลทหารรายดังกล่าว และจะหาข้อมูลให้ครบถ้วน รวมทั้งยังจะอำนวยความสะดวกให้ทางญาติเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจ เพื่อให้พนักงานสอบสวนได้เข้ามาเก็บหลักฐาน ซึ่งจะทำให้ทางญาติมีความสบายใจมากขึ้น
“เราได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายในองค์กรเพื่อให้ญาติสบายใจ เพราะบางอย่างเราไม่สามารถสอบสวนผู้ปกครองของน้องพลทหารได้ทั้งหมด จึงต้องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง โดยขณะนี้ได้ตั้งแนวทางไว้ 3 ประเด็น คือ เรื่องความกดดันภายในหน่วย ปัญหาส่วนตัว และอาการเจ็บป่วย อย่างไรก็ตาม กองทัพบก เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในข้อมูลพบว่าพลทหารรายดังกล่าวเพิ่งกลับจากบ้านเมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา” พล.ต.ไพรัช แก้วศรี ผบ.มทบ.12 กล่าว
ด้าน น.ส.วันวิสา น้องสาวของพลทหารที่ได้รับบาดเจ็บเผยว่า จากการเข้าตรวจสอบภายในเรือนนอนที่เกิดเหตุและได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดยังไม่พบความผิดปกติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ตรวจสอบทุกอย่างโดยโปร่งใส รวมทั้งโทรศัพท์ของพี่ชายที่จะนำไปให้ตำรวจตรวจสอบด้วย
“ทางครอบครัวรับรู้ได้ว่าทางหน่วยทหารได้ให้ความเป็นธรรมกับเราเต็มที่ และในเบื้องต้นจากการตรวจร่างกายของพี่ชายไม่พบว่ามีความผิดปกติ จะมีแค่เพียงแผลที่เกิดจากการกระโดดลงมา และยังได้รับแจ้งว่าในช่วง 1-2 วันนี้จะมีการย้ายพี่ชายไปโรงพยาบาลพระมงกุฎ ส่วนเรื่องยาเสพติดและซึมเศร้ายืนยันว่าไม่มีประวัติการรักษา และจะขอให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ตรวจสอบต่อไป” น้องสาวพลทหาร กล่าว
