ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- หนุ่มโคราชลาออกจากงานแบงก์ พลิกชีวิตมาทำฟาร์ม “Liger Organic”ปลูกผักสลัดอินทรีย์ขาย นั่งนับเงินรายได้เดือนละแสน เผยออเดอร์ล้นทะลักผลิตไม่ทันตามความต้องการตลาด เตรียมลงทุนขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มต่อเนื่อง
วันนี้ (23 มี.ค.) นายกษิดิ์เดช วงใหญ่ อายุ 24 ปี หนุ่มอดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ตัดสินใจลาออกจากงานมาทำฟาร์มปลูกผักสลัดอินทรีย์ ส่งจำหน่ายอย่างเอาจริงเอาจัง บนที่ดินของลุง อยู่ที่บ้านใหม่หนองบัว หมู่ที่ 7 ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จนปัจจุบันนี้ผลผลิตออกไม่ทันความต้องการของตลาด แม้สามารถผลิตสินค้าได้มากถึง 1 -2 ตันต่อเดือน จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 70 บาท หรือตกเฉลี่ยมีรายได้จากการปลูกผักสลัดไม่น้อยกว่าหลักแสนบาทต่อเดือนก็ตาม ทำให้ต้องเตรียมลงทุนขยายพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มเติม เพื่อให้มีผลผลิตออกทันตามออเดอร์ที่เพิ่มมากขึ้น
นายกษิดิ์เดช วงใหญ่ หรือ น้อง “ลิกเกอร์” เจ้าของฟาร์มสลัดปลอดสารเคมี “Liger Organic” เล่าให้ฟังว่า เรียนจบปริญญาตรี สาขา การจัดการโลจิสติกส์ มาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ก่อนหน้านี้ได้ไปเข้าทำงานเป็นพนักงานของธนาคารแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครราชสีมา รับเงินเดือน 15,000 บาท แต่ด้วยความที่ชอบทำการเกษตร เพราะที่บ้านส่วนใหญ่ คลุกคลีอยู่กับวงการเกษตร รวมทั้งชอบทานผักเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับคิดถึงคำพูดของพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่เคยบอกไว้ว่า “ผักปลอดสารที่แท้จริงนั้นหาได้ยาก หากทำได้ความต้องการก็น่าจะสูง” จึงได้ศึกษาหาข้อมูลจากทางสื่อและหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำมาเป็นข้อมูลทดลองปลูกผักไว้กินเองและจำหน่ายเป็นรายได้เสริม
ยิ่งได้ทดลองทำก็ยิ่งชอบ จึงตัดสินใจลาออกจากงานที่เพิ่งทำได้ไม่ถึงปี มาลงมือปลูกผักอินทรีย์หรือผักปลอดสารเคมีอย่างจริงจัง โดยมุ่งปลูกผักสลัดปลอดสารเคมี เพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคผักที่มีความสะอาด ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ ขอใช้ที่ดินด้านหลังบ้านของลุงแท้ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นที่นา สวนปาล์ม และสวนมะพร้าว มาปรับปรุงขุดบ่อสร้างแหล่งน้ำดิบ ที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมของตัวเองได้เพื่อเอาน้ำไว้ใช้เพาะปลูกผัก จากนั้น ก็สร้างโรงเรือนปลูกผักสลัด จำนวน 2 ไร่ในช่วงเริ่มต้น โดยตั้งธงจะให้ปลอดสารเคมีทั้งระบบเริ่มตั้งแต่การเตรียมดิน การปลูก กำจัดวัชพืช การให้น้ำ ให้ปุ๋ย ไปจนสิ้นสุดกระบวนการเก็บเกี่ยว ทั้งหมดจะไม่มีการนำสารเคมีเข้ามาสู่กระบวนการแม้แต่น้อย
การเตรียมดิน จะเริ่มจากการตีดิน และใช้ปุ๋ยหมักมารองพื้น หมักบ่มให้เพียงพอต่อการเพาะปลูกผักในหนึ่งรุ่น ดูแลรดน้ำให้ปุ๋ยอินทรีย์ผ่านระบบน้ำ กำจัดวัชพืชด้วยวิธีการถอน ไล่แมลงด้วยสารสกัดและน้ำหมักชีวภาพตลอดอายุการเก็บเกี่ยว และควบคุมพื้นที่โดยรอบเพื่อไม่ให้มีสารเคมีเข้ามาเจือปนอย่างดี
พอได้ผลผลิต ก็เริ่มต้นจากการขายเองในพื้นที่และขายออนไลน์ แล้วเริ่มขยายค้นหาตลาดด้วยตัวเองและปรึกษาสำนักงานเกษตรอำเภอ จนตอนนี้ได้รับความสนใจจากตัวแทนบริษัทส่งจำหน่ายผักปลอดสารพิษรายใหญ่มาติดต่อรับซื้อผักสลัดของตนทุกสัปดาห์ เฉลี่ยตอนนี้สามารถเพาะปลูกผักสลัดได้ประมาณเดือนละ 2 – 3 ตัน แต่ยังไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้า จึงเริ่มจะขยายแปลงเพาะปลูกเพิ่มมากขึ้น จากประมาณ 3 ไร่เศษ เป็นเกือบ 7 ไร่
ทั้งนี้เนื่องจากมองดูแล้วว่าช่องทางการตลาดผักสลัดปลอดสารพิษนั้น นับวันยิ่งจะมีความต้องการเพิ่มขึ้น เพราะทุกวันนี้การทำผักสลัดปลอดสารมีความยากเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัจจัยจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง แมลงศัตรูพืชที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กระบวนการผลิตในการทำให้ปลอดสารพิษทั้งระบบ ทำได้ยากตามไปด้วย จึงอาจทำให้คู่แข่งขันทางตลาดลดน้อยลงในอนาคต ในขณะที่ความต้องการยังคงสูงอยู่
ตอนนี้จึงเตรียมที่ลดต้นทุนการผลิต ด้วยการเพาะเมล็ดพันธุ์เอาไว้ใช้เอง เนื่องจากหากทำได้จะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ล่าสุดทางฟาร์มกำลังอยู่ในระหว่างการขอการรับรองมาตรฐานออแกนิคไทยแลนด์ จากกรมวิชาการเกษตรรวมถึงการเข้าร่วมตรวจประเมินแปลงผักอินทรีย์ Korat Organic Standard หรือ KOS. เพิ่มเติมด้วย เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าและผู้บริโภค
สำหรับใครที่สนใจอยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปสอบถามได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Liger Organic หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-8794512