ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- สภาทนายความโคราช จี้แอปฯ หาคู่นำป้ายโฆษณาหมิ่นสาวโคราชออกโดยเร็วภายใน 7 วัน หากยังอยู่พร้อมแจ้งความดำเนินคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา มีโทษหนักทั้งจำคุกและปรับ พร้อมเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
วันนี้ ( 22 มี.ค.) ความคืบหน้ากรณีชาวโซเชียลมีเดียแชร์ต่อป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ซึ่งมีข้อความว่า “ของอร่อยนครราชสีมา!” แล้วต่อด้วยตัวเลือก 2 ข้อ คือ “ผัดหมี่โคราช” มีเครื่องหมายกากบาทต่อท้าย , “ผู้สาวโคราช” มีเครื่องหมายถูกต่อท้าย และ ด้านล่างมีโลโก้ของแอพลิเคชั่นหาคู่เจ้าหนึ่ง (tinder) ปรากฏอยู่ ซึ่งป้ายติดอยู่บนอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ริมถนนโพธิ์กลาง ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ห่างจากลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ไม่ถึง 500 เมตร โดยใช้ตัวอักษรภาษาไทยสีขาว พื้นหลังสีแดง ดูโดดเด่นดึงดูดสายตาผู้ที่สัญจรผ่านไปมาเป็นอย่างมาก และยังมีชาวบ้านแจ้งว่า ป้ายลักษณะนี้ยังมีติดอยู่หลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา ซึ่งข้อความดังกล่าวทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย ทั้งในโลกโซเชียลฯและในกลุ่มประชาชนทั่วไป โดยกระแสมีทั้งด้านบวกและด้านลบ บางคนมองว่าส่อเจตนาดูถูกเหยียดหยามสตรีชาวโคราช ในขณะที่บางคนมองเป็นแค่การโฆษณา อย่าหัวโบราณ ไม่อยากให้ดรามา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ ที่สำนักงานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ถนนสืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นางสาวลภัสรดา ณัฐอาภาพล รองประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะกรรมการสภาทนายความที่เป็นสุภาพสตรีรวม 5 คน ได้ร่วมประชุมหารือกันเพื่อเตรียมดำเนินการแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบป้ายดังกล่าว และให้มีคำสั่งปลดป้ายโฆษณาดังกล่าวออกไปโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกสตรีชาวโคราชทุกคน
นางสาวลภัสรดา กล่าวว่า จากข้อความโฆษณาของป้ายดังกล่าว ทำให้เกิดข้อถกเถียงกันในโลกโซเชียลฯ ทั้ง 2 แง่มุม ไม่ว่าจะเป็นแง่ลบและแง่บวก ซึ่งผู้ทำป้ายโฆษณาอาจจะมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดกระแสถกเถียงในสังคมวงกว้าง เพื่อให้มีคนสนใจเข้าไปสมัครเว็บหาคู่เพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของความรู้สึกของชาวโคราช ไม่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของผัดหมี่โคราชและสาวโคราชแน่นอน
ดังนั้นในแง่ของกฎหมาย ถ้าคำโฆษณานั้นๆ เป็นการลดทอนคุณค่าของหญิงสาวชาวโคราช หรือนำไปเปรียบกับอาหาร ก็หมิ่นประมาทได้ และการที่นำข้อความดังกล่าวไปทำป้ายโฆษณา จะเข้าข่ายความผิดคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งจะมีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท และจำคุกไม่เกิน 2 ปีด้วย
โดยวันนี้ทางสภาทนายความจะแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อให้ตรวจสอบป้ายดังกล่าว และแจ้งให้เจ้าของป้ายโฆษณาดังกล่าว นำป้ายออกโดยเร็ว ภายใน 7 วัน นับจากวันนี้ (22 มี.ค.) หากยังไม่นำป้ายโฆษณาออก ทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และเครือข่ายปกป้องสิทธิสตรีโคราช จะเข้าไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป