สุรินทร์ - อดีตเจ้าของค่ายมวยชื่อดัง “ป๋าอี” คนที่ปั้นบัวขาวและนักมวยชื่อดังอีกหลายคนชีวิตพลิกผันตกอับต้องเดินเร่ร่อนตามท้องถนน ค่ำไหนนอนนั่น ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่สลึงเดียว วอนถ้าบัวขาวได้ดูข่าวแวะมาเยี่ยมบ้าง
วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายนิเวศ อินทร์งาม อายุ 65 ปี อดีตหัวหน้าค่ายมวยชื่อดัง ขณะเดินอยู่ริมถนนสาย 226 ศีขรภูมิ สุรินทร์ โดยก่อนหน้านี้นายนิเวศเคยเป็นเจ้าของโรงงานปลาทู "ปลาทูทอง" และหันมาสร้างค่ายมวย จนมีลูกศิษย์ลูกหาที่โด่งดังบนสังเวียนมวยมาหลายคนโดยเฉพาะ บัวขาว บัญชาเมฆ, อิคคิวซัง และนักมวยหลายคนที่ได้ไปชกที่ค่ายมวยต่างประเทศ
นายนิเวศ หรือที่บรรดานักมวยในค่ายเรียกว่า ป๋าอี เล่าว่า ตอนนี้ตนไม่มีที่อยู่แน่นอน ผู้คนที่เคยเป็นเพื่อนฝูงก็เมินหน้าหนี ไม่สนใจ และที่กำลังเดินอยู่นี้ก็จะไปพบนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งเพื่อขอเงินมาซื้ออาหารกินพอประทังชีวิต
นายนิเวศ หรือป๋าอี เล่าอีกว่า แต่ก่อนเคยสร้างรายได้ มีเงินจำนวนมาก มีอยู่มีกินและหันมาสร้างค่ายมวย และอดีตก็เคยมีภรรยา แต่ได้หย่าร้างกันไป ซึ่งในระหว่างที่ทำค่ายมวยก็ได้สร้างนักมวยให้โด่งดังในเวทีมาหลายคน เช่น บัวขาว บัญชาเมฆ วรพลน้อย ศิษย์ป๋าอี และอิคคิวซัง ศิษย์ป๋าอี ซึ่งนักมวยแต่ละคนเคยได้สร้างชื่อเสียงโด่งดังมามากมาย คนในวงการมวยรู้จักกันดี
ป๋าอียังบอกอีกว่า ตนไม่ค่อยสบาย ร่างกายก็เดินไม่ค่อยจะไหว เพราะเมื่อหลายปีก่อนเคยถูกรถเฉี่ยวชนสภาพร่างกายถึงเป็นแบบนี้ และตนเองก็อยากจะหันมาทำค่ายมวยอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีเงิน เพราะน้องๆ ตลอดจนลูกศิษย์ที่ปั้นขึ้นมาก็หายหน้ากันหมด ตนเองก็ลำบากเดินหาเช้ากินค่ำ ขอเงินเพื่อนๆ กินไปวันๆ เจอคนใจดีก็ให้ บางคนก็ไม่ให้ แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร คิดถึงตอนสมัยตัวเองที่มีอยู่มีกินมีเพื่อนฝูงเยอะมากมาย พอตนเองล้มลงเพื่อนฝูงก็หายกันหมด บางครั้งก็นอนที่วัดบ้าง บางครั้งก็หลับนอนในพื้นที่ที่ไม่มีคนเห็น
“ถ้าบัวขาว บัญชาเมฆ หรือน้องๆ ที่ผมเคยปั้นขึ้นมาได้ดูข่าวก็ขอให้แวะเยี่ยมเยือนกันบ้าง ผมไม่อยากขออะไรจากใคร แค่อยากจะมีเงินซื้อเตามาทำปลาทูขายเหมือนเดิม” ป๋าอีกล่าว