อุทัยธานี - สีกากีส่อฉาวไม่มีพัก..สองสาว หนึ่งอยู่อุทัยธานี อีกรายอยู่ชลบุรี พากันขึ้นโรงพักบ้านไร่แจ้งความถูกผู้หมวด-ตำรวจหญิงลำปางหลอกร่วมลงทุนเทรดทองคำแลกผลตอบแทนสูง แต่จ่ายตรงแค่ 5 งวด หลังจากนั้นมีแต่ผัดวันประกันพรุ่ง แถมนัดไกล่เกลี่ยแล้วยังไม่มาตามนัด ส่อสูญเงินเกือบ 3 ล้านบาท
กรณีหญิงวัย 44 ปีนำเอกสารหลักฐานสลิปการโอนเงินขึ้นโรงพักแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ณัฐกิตติ์ นิธิฉัตรเจริญคุณ ร้อยเวรสอบสวน สภ.บ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เพื่อดำเนินคดีร้อยตำรวจโทหญิง อายุ 57 ปี ทำงานอยู่โรงพักแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง ว่าหลอกลงทุนเทรดทองคำ สูญเงินไปเกือบ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2566 ซึ่งมีคนถูกหลอกหลายราย บางรายนั้นก็ไม่มาแจ้งความเพราะกลัวว่าจะสูญเงินนั้น
ล่าสุดนางสาวเอ (นามสมมติ) มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดอุทัยธานี และนางสาวจันทร์ทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี มาจากจังหวัดชลบุรี ได้นัดพบสื่อมวลชนที่หน้า สภ.บ้านไร่ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา
นางสาวเอ (นามสมมติ) เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า ได้เข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2566 เพราะถูกตำรวจหญิงนายดังกล่าวซึ่งประจำอยู่ที่ลำปาง หลอกลงทุนไปจำนวน 2,630,00 บาท ส่วนนางจันทร์ทิพย์ ถูกหลอกร่วมลงทุนไปจำนวน 155,000 บาท
ผู้เสียหายระบุว่าถูกผู้หมวดหญิงรายนี้ ชักชวนผ่านคนรู้จักให้ลงทุนเทรดทองคำ โดยเสนอให้ค่าตอบแทนในอัตราสูง คือหากลงทุน 5,000 บาท จะได้รับค่าตอบแทน 1,200 บาท ลงทุน 10,000 บาท จะได้รับค่าตอบแทน 2,400 บาท ลงทุน 20,000 บาท จะได้ค่าตอบแทน 5,000 บาท ค่าตอบแทนจะเพิ่มขึ้นตามวงเงินที่ลงทุน ลงทุนมากก็จะได้มาก โดยผู้ลงทุนจะได้ค่าตอบแทนรายสัปดาห์ คือจะได้รับเงินทุกวันอาทิตย์ ระยะเวลา 8 สัปดาห์
ซึ่งนางสาวเอก็ได้ลงทุนไป ในระยะ 4 สัปดาห์แรกก็ได้รับค่าตอบแทนตรงตามเวลา แต่ระหว่างนั้นผู้หมวดหญิงก็จะชวนให้ลงเงินเพิ่ม โดยอ้างว่ามีโปรโมชันจะได้ค่าตอบแทนสูงกว่าเดิม ตนเห็นว่าก่อนหน้านั้นได้ค่าตอบแทนตรงจึงลงเงินเพิ่มไปตามคำชวน จนกระทั่งยอดเงินที่ลงทุนไปเกือบสามล้านบาท
แต่หลังจากงวดที่ 5 เริ่มผิดนัดไม่มีการโอนค่าตอบแทนให้ เมื่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยงและขอผัดวันไปเรื่อย ซึ่งตนเองได้ให้โอกาสตามที่ขอผัดวันชำระ สุดท้ายเริ่มติดต่อไม่ได้ โทร.ไปไม่รับสาย ไม่อ่านไลน์ หรืออ่านแต่ไม่ตอบ และสุดท้ายที่ติดต่อได้ผู้หมวดขอผ่อนชำระ ตนจึงให้มาตกลงกันที่ สภ.บ้านไร่ ซึ่งในครั้งแรกมาจริงแต่ไม่ยอมนำหลักฐานใดๆ ติดตัวมาเลย จึงมีการนัดครั้งที่สองแต่ก็ผิดนัด
และครั้งล่าสุดซึ่งมีผู้เสียหายที่เพิ่งทราบเรื่องและได้แจ้งความไว้แล้วที่จังหวัดชลบุรีได้เดินทางมาด้วยเพื่อต้องการพบตัวผู้หมวดนายดังกล่าว เมื่อวันที่ 17 มีนาคม แต่ก็ไม่มา ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าจะมีผู้เสียหายรายอื่นๆ อีกหรือไม่ จากนั้นตนจึงโทรศัพท์ไปถาม โดยผู้หมวดหญิงนายดังกล่าวอ้างว่าไปแล้วแต่เห็นนักข่าวมากันเยอะจึงไม่เข้าไปและขอผ่อนชำระเดือนละสองแสนบาท โดยขอเริ่มชำระเดือนเมษายนนี้ เนื่องจากลูกจะขอกู้เงินเมื่อได้แล้วจะชำระคืนให้ทั้งหมด แต่ตนเองไม่เชื่ออีกแล้วและคงให้ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะที่พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างออกหมายเรียกให้ผู้หมวดหญิงเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้ฝากเตือนประชาชนทุกคนว่าอย่าได้หลงเชื่อหากมีคนมาชวนให้ลงเหรียญ เทรด เงินในอากาศไม่มีจริง ตอนแรกก็อาจจะได้ แต่สุดท้ายก็หายกันไปหมด สูญเงินทั้งหมด
ด้าน ร.ต.อ.ณัฐกิตติ์ นิธิฉัตรเจริญคุณ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านไร่ เปิดเผยว่าทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานมาโดยตลอดไม่ได้นิ่งนอนใจเลย และได้เรียกพยานอีกคนหนึ่งมาสอบสวนเพิ่มเติมก็คือ นางสาวจันทร์ทิพย์ อีกหนึ่งปาก ขณะที่ร้อยตำรวจโทหญิงนายดังกล่าวนั้นไม่มาตามที่นัดไกล่เกลี่ยกันไว้หรือตามที่ตกลงกันไว้ก็จะออกหมายเรียกไป หากไม่มาอีกก็จะออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ผู้เสียหายที่ร้องเรียนสื่อมวลชนทั้งสองคนนั้นเห็นว่าทางร้อยตำรวจโทหญิงไม่มาตามที่นัดหมายก็เดินทางกลับไปและรอเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกอีกครั้งซึ่งต่างก็ยังคงมีความหวังว่าจะได้เงินที่ถูกหลอกลวงไปคืนกลับมา