แม่ฮ่องสอน - ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐอเมริกา กวาดล้างขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ จับผู้ต้องหาชาวเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน รวม 4 ราย พร้อมนกป่า 27 ตัว
วันนี้ (20 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐอเมริกา (Unied States Fish and Widlife Service (USFWS หรือ FWS) MR. James Markley เจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปรามอาวุโส และผู้ช่วยทูตประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกันสืบสวนและปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศ
ต่อมาจึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ณัทกฤษ น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส. ได้ดำเนินการปราบปรามกลุ่มบุคคลผู้กระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการค้า ครอบครอง ล่า สัตว์ป่าคุ้มครอง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.แม่ฮ่องสอน
กระทั่ง ร.ต.อ.จิรายุ อิ่นแก้ว รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส. ได้ขออำนาจศาลจังหวัดแม่สะเรียง 2 หมาย พ.ต.ต.ยุทธพล ยศพิมสาร สว.กก.2 ปรก.ปพ.บก.สส.ภ.5 ขอหมายค้นศาลจังหวัดฮอด 1 หมาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) สาขาแม่สะเรียง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.33, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สะเรียง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กองก๋อย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อหลวง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองนำหมายศาลเข้าค้นบ้าน 3 จุด สามารถจับกุมผู้กระทำผิด 4 ราย
คือ 1. นายล้วน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 71 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน 2. นายนำโชค (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 71 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน 3. นายสุดเขต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ชาวบ้าน ต.กองก๋อย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน และนายภานุพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ชาวบ้าน ต.บ่อสลี อ.ฮอด จ.เชียงใหม่
พร้อมของกลางเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง นกกระรางคอดำ หรือนกซอฮู, นกกางเขนดง หรือนกบินหลาดง หรือนกจิงปุ๊ย, นกกวัก หรือนกกระรางหัวหงอก, นกกรงหัวจุก หรือนกปรอดหัวโขน และนกกระทาทุ่ง รวมทั้งหมด 27 ตัว
นอกจากนี้ยังมีของกลางอื่นๆ เช่น เพนียดดักนก, ซิงข่ายดักนก, กรงนก, จั่นเจาดักนก รวม 88 รายการ พร้อมด้วยอาวุธปืน ยาวแบบไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด 5.56 มม. 20 นัด และซองกระสุนปืนสำหรับเครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. 1 อัน
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเปิดเผยว่า จากการสอบสวนข้อมูลเชิงลึกทราบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ลักลอบจับนกป่าในพื้นที่เพื่อส่งตอนายทุนนำไปขายต่อต่างประเทศให้ผู้ที่นิยมนำนกมาแข่งร้อง ราคาซื้อขายในบ้านเราจะอยู่ที่หลักพัน แต่ถ้าหากส่งไปขายต่างประเทศราคาจะสูงถึงหลักหมื่น จนถึงหลักแสนเลยทีเดียว
