ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ป.ป.ช.ภาค 3 รุดลงพื้นที่ตรวจสอบครูพละ โรงเรียนเทศบาลนครโคราชฉาวโฉ่ เรียกเก็บเงินแก้เกรดติด “ร” นักเรียนชาย ม.3 และนัดนักเรียนหญิงไปมีเพศสัมพันธ์ ขณะผู้ปกครองผวานักเรียนไม่ปลอดภัย วอนโรงเรียนป้องกันและช่วยเหลือดูแลเยียวยาสภาพจิตใจ
วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเพจอีซ้อขยี้ข่าวได้โพสต์แฉเรื่องราวครูพละชายรายหนึ่ง โรงเรียนในสังกัดของเทศบาลนครนครราชสีมา มีพฤติกรรมเรียกเก็บเงินค่าแก้เกรดติด “ร” จากนักเรียนชั้น ม.3 คนละ 200 บาท โอนเข้าบัญชีธนาคารตัวเอง ทั้งที่ทางผู้บริหารโรงเรียน และผู้บริหารเทศบาลนครนครราชสีมาไม่มีนโยบายเรียกรับเงินลักษณะนี้ นอกจากนี้เพจอีซ้อขยี้ข่าวยังได้แฉต่อเนื่องว่าทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ใหม่ โรงเรียนแห่งนี้เตรียมที่จะแฉพฤติกรรมของครูพละรายนี้ ซึ่งมีทั้งเรื่องของเรียกเก็บเงิน และพฤติกรรมนัดนักเรียนหญิงไปมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวโซเชียลอย่างกว้างขวาง ก่อนที่เมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ทางนายชัชวาล วงศ์จร รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ซึ่งดูแลสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลฯ สั่งย้ายครูพละคนดังกล่าวไปช่วยราชการที่สำนักการศึกษาเทศบาลฯ และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นางสาวหญิงจิตติมา นัฏฐนิชาโชติกา อายุ 46 ปี ผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกครูพละเรียกเก็บเงินค่าแก้เกรดติด “ร” เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนเองนำเรื่องนี้ไปแชร์ในโลกโซเชียลมีเดียก็ไม่นึกว่าจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เพียงแต่ต้องการให้ทางโรงเรียนได้ตรวจสอบเพื่อไม่ให้เกิดการเรียกเก็บเงินเข้ากระเป๋าส่วนตัวครูคนใดคนหนึ่งเท่านั้น
แต่หลังจากเป็นข่าวไปแล้ว ตอนนี้รู้สึกหวาดระแวงในความปลอดภัยของหลานชาย และเพื่อนนักเรียนที่ถูกเรียกเก็บเงิน เพราะทางโรงเรียนยังไม่ได้มาพูดคุยถึงเรื่องนี้ และตำรวจยังไม่ได้แจ้งความข้อหาใดๆ กับครูคนดังกล่าวเลย เนื่องจากอยู่ในช่วงการตรวจสอบข้อเท็จจริง ระหว่างนี้จึงอยากให้ทางโรงเรียนช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย และช่วยเยียวยาสภาพจิตใจของนักเรียนเหล่านั้นด้วย
ขณะเดียวกัน นายยศกร ศรีคลัง รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มประสานการป้องกันการทุจริต 3 ป.ป.ช.ภาค 3 เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ตนได้รับมอบหมายจาก นายรัฐวุฒิ ขมประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 3 ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ตนพร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครราชสีมา สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 3 จึงได้ลงพื้นที่ไปโรงเรียนดังกล่าว
โดยผู้อำนวยการโรงเรียนได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้แจ้งเรื่องไปยังต้นสังกัดเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง คาดว่า 15 วันรู้ผล
นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ช.นครราชสีมา และสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 3 ยังได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมจากต้นสังกัด คือ สำนักการศึกษาเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลโรงเรียนดังกล่าว โดยนางปุณยวีร์ พิศนอก ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา เทศบาลนครนครราชสีมา ได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ทางเทศบาลนครนครราชสีมากำลังเสนอรายชื่อให้กับกองการเจ้าหน้าที่เพื่อมีคำสั่งตั้งแต่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามบทบาท อำนาจหน้าที่ และต้นสังกัดได้มีคำสั่งให้คุณครูคนดังกล่าวช่วยราชการ ที่สำนักการศึกษา เทศบาลนครนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป จนกว่าคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของเทศบาลนครนครราชสีมาจะดำเนินการแล้วเสร็จ เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครราชสีมา และสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 3 จะติดตามผลการดำเนินงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคุณครูคนดังกล่าวว่ามีพฤติการณ์ตามข้อกล่าวหาหรือไม่ และจะได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป